นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างรวดเร็วในไตรมาส 1/2566 โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงอาจจะกลายเป็นความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยจะขยายตัว 2.3% ในไตรมาส 1/2566 เมื่อเทียบเป็นรายปี จากระดับ 1.4% ในไตรมาส 4/2565 และเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส คาดว่า GDP จะขยายตัว 1.7% หลังจากที่หดตัวลง 1.5% ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจไทยซึ่งต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวนั้น ขยายตัวน้อยกว่าประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลังจากนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากเดินทางมาประเทศไทยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งช่วยกระตุ้นการจ้างงาน และอุปสงค์ภายในประเทศ
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของไทย (สภาพัฒน์) จะเปิดเผยตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 1 ในวันจันทร์ที่ 15 พ.ค.นี้
นายหาน เต็ง ชัว นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารดีบีเอสเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า "โดยส่วนใหญ่แล้ว การเติบโตของเศรษฐกิจไทยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนเริ่มกลับมาเยือนไทยอีกครั้งหลังจากรัฐบาลจีนเปิดประเทศ นอกจากนี้ การอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้นก็เป็นแรงหนุนเศรษฐกิจไทยด้วย"
ข้อมูลของรัฐบาลไทยระบุว่า ไทยมียอดนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงเดือนม.ค.ถึงปลายเดือนมี.ค.จำนวนมากถึง 6.15 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 6 ล้านคนในไตรมาส 1 ของปีนี้
นอกจากนี้ ผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์อีกฉบับของรอยเตอร์ยังคาดว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวโดยเฉลี่ย 3.7% ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประมาณการไว้ที่ 3.6% และคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2567 จะขยายตัว 3.8%