นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้ส่งจดหมายฉบับที่ 2 ถึงสภาคองเกรสในวันจันทร์ (15 พ.ค.) เพื่อเน้นย้ำว่า สหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้อย่างเร็วที่สุดในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ หากสภาคองเกรสไม่อนุมัติการขยายเพดานหนี้
"เมื่อพิจารณาจากข้อมูลที่เราได้รับเพิ่มเติมในขณะนี้ ดิฉันจึงได้ส่งจดหมายมาถึงท่านเพื่อย้ำว่า เรายังคงประเมินว่ากระทรวงการคลังสหรัฐจะไม่สามารถชำระหนี้ตามพันธกรณีทางกฎหมายในช่วงต้นเดือนมิ.ย.หรืออย่างเร็วที่สุดในวันที่ 1 มิ.ย. หากสภาคองเกรสไม่ดำเนินการปรับเพิ่มเพดานหนี้หรือระงับเพดานหนี้ชั่วคราว" นางเยลเลนระบุในจดหมาย
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของนางเยลเลนมีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมพบปะกับนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ รวมทั้งผู้นำของสภาคองเกรสในวันนี้ (16 พ.ค.) เพื่อเจรจาเป็นครั้งที่ 2 เกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ หลังจากที่การเจรจาครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วไม่มีความคืบหน้า
ทั้งนี้ นางเยลเลนเตือนว่า หากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ จะส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐเผชิญวิกฤตการณ์ อีกทั้งจะทำให้เศรษฐกิจและการเงินของสหรัฐและทั่วโลกเผชิญกับหายนะ
"เราได้รับบทเรียนในอดีตที่ผ่านมาว่าการประวิงเวลาจนถึงนาทีสุดท้ายก่อนที่จะปรับเพิ่มเพดานหนี้หรือระงับเพดานหนี้นั้น ได้บั่นทอนความเชื่อมั่นต่อภาคธุรกิจและกลุ่มผู้บริโภคอย่างรุนแรง อีกทั้งทำให้ต้นทุนการกู้ยืมระยะสั้นของประชาชนผู้เสียภาษีปรับตัวสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบด้านลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ"
"หากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ จะส่งผลให้ครัวเรือนชาวอเมริกันเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก อีกทั้งจะบั่นทอนสถานะการเป็นผู้นำของสหรัฐในเวทีโลก และสร้างความกังขาเกี่ยวกับความสามารถของเราในการปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของประเทศ" นางเยลเลนระบุในจดหมายฉบับที่ 2 ที่ส่งถึงสภาคองเกรส