ค่าสเปรดของ Credit Default Swap (CDS) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ ปรับตัวลงในวันอังคาร (16 พ.ค.) หลังจากมีรายงานว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้จัดการประชุมร่วมกับนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยใกล้จะบรรลุข้อตกลงการปรับเพิ่มเพดานหนี้ ซึ่งจะช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
ข้อมูลจาก S&P Global Market Intelligence ระบุว่า ค่าสเปรด CDS อายุ 10 ปีของสหรัฐ ลดลงสู่ระดับ 1.55% จากระดับ 1.64% ในวันจันทร์ (15 พ.ค.) ส่วนค่าสเปรด CDS อายุ 5 ปี ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 0.69% จากระดับ 0.72%
รายงานระบุว่า หลังจากการเจรจาซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเสร็จสิ้นลง นายแมคคาร์ธีกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า แม้ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ในการประชุมครั้งนี้ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุข้อตกลงภายในปลายสัปดาห์นี้ และไม่ใช่เรื่องยากที่ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะสามารถทำข้อตกลงร่วมกัน
ขณะที่ปธน.ไบเดนกล่าวว่า ผู้นำที่เข้าร่วมเจรจาในครั้งนี้สามารถบรรลุฉันทามติร่วมกันว่าจะต้องไม่เกิดการผิดนัดชำระหนี้ และเศรษฐกิจสหรัฐจะต้องไม่เผชิญกับภาวะถดถอย
ด้านนายนีล แบรดลีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านนโยบายของสมาคมหอการค้าสหรัฐได้ออกมาขานรับความคืบหน้าในการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ โดยกล่าวว่า "เราเชื่อว่าพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อปรับเพิ่มเพดานหนี้ และดำเนินนโยบายปฏิรูปที่สำคัญเพื่อฟื้นฟูสถานะการคลังของประเทศ" ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้อย่างเร็วที่สุดในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ หากสภาคองเกรสไม่อนุมัติการปรับเพิ่มเพดานหนี้ ขณะที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์กังวลว่าวิกฤตการณ์ดังกล่าวจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย