World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 19, 2023 08:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทวอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งความคืบหน้าในการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ

-- นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้แสดงความเชื่อมั่นว่าสหรัฐจะไม่ผิดนัดชำระหนี้ โดยขณะนี้คณะทำงานของทำเนียบขาวและสภาคองเกรสมีความคืบหน้าในการเจรจา และมีความเป็นไปได้ที่จะมีการบรรลุข้อตกลงภายในปลายสัปดาห์นี้ ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะจัดการลงมติในญัตติดังกล่าวในสัปดาห์หน้า

-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดบวกในวันนี้ แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 33 ปี โดยได้แรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกในวันพฤหัสบดี ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ ขณะที่หุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวขึ้นจากการที่เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์

-- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้ใช้สิทธิวีโต้ร่างกฎหมายเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่ออุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ หรือแผงโซลาร์เซลล์ จากไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (16 พ.ค.)

ก่อนหน้านี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ

หลังการใช้สิทธิวีโต้ของปธน.ไบเดน ร่างกฎหมายดังกล่าวจะกลับเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งหนึ่ง และทั้ง 2 สภาจะต้องรวบรวมเสียงสนับสนุนให้ได้ไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ในการลงมติรับรองร่างกฎหมายดังกล่าว มิฉะนั้นร่างกฎหมายฉบับนี้จะตกไป

-- นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมิ.ย. หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายต่างกล่าวสนับสนุนการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 36.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้น้ำหนักเพียง 10.7%

ทั้งนี้ นางลอรี โลแกน ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวในวันนี้ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดไม่ได้สนับสนุนให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.

นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เขาคาดว่าเฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะปรับตัวอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

-- บริษัทวอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ในเดือนก.พ.-เม.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 1 ของปีงบการเงินบริษัท สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ วอลมาร์ทระบุว่า บริษัทมีกำไร 1.47 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.32 ดอลลาร์/หุ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทมีรายได้ 1.5230 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.4876 แสนล้านดอลลาร์

บริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน เปิดเผยผลประกอบการในเดือนม.ค.-มี.ค. ซึ่งเป็นไตรมาส 4 ของปีงบการเงินบริษัท

ทั้งนี้ อาลีบาบาเปิดเผยว่า บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 2% สู่ระดับ 2.082 แสนล้านหยวน แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.103 แสนล้านหยวน

อย่างไรก็ดี อาลีบาบาเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 2.35 หมื่นล้านหยวน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.51 หมื่นล้านหยวน หลังจากขาดทุนสุทธิ 1.62 หมื่นล้านหยวนในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 22,000 ราย สู่ระดับ 242,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 254,000 ราย

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลงสู่ระดับ 244,250 ราย

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 3.4% สู่ระดับ 4.28 ล้านยูนิตในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน

เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านดิ่งลง 23.2% ในเดือนเม.ย.

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -10.4 ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -20.0 จากระดับ -31.3 ในเดือนเม.ย.

อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกอยู่ในภาวะหดตัว โดยหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9

ดัชนีได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่การจ้างงานปรับตัวลง

Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ร่วงลง 0.6% ในเดือนเม.ย.

Conference Board ระบุว่า ดัชนีบ่งชี้แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ขณะที่องค์ประกอบหลายตัวของดัชนีต่างปรับตัวอย่างอ่อนแอ และแสดงสัญญาณว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเริ่มตั้งแต่กลางปี 2566


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ