กระทรวงการคลังอังกฤษระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ (22 พ.ค.) ว่า นายเจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง วางแผนที่จะแจ้งเรื่องข้อกังวลเกี่ยวกับราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้น และเตรียมหารือเกี่ยวกับการบรรเทาความตึงเครียดในครัวเรือน เมื่อพบปะกับบรรดาผู้ผลิตอาหารในวันนี้ (23 พ.ค.)
"ราคาอาหารยังคงสูงและยากที่จะลดลง ดังนั้นเราจำเป็นต้องเข้าใจว่าอะไรคือปัจจัยที่ขับเคลื่อนให้ราคาอาหารแพง" นายฮันท์ระบุในแถลงการณ์
การพบปะดังกล่าวจะมีขึ้นไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่นายกรัฐมนตรีริชี ซูนัค ผู้นำอังกฤษ จัดการประชุมสุดยอดด้านอาหารเพื่อส่งเสริมการเติบโต นวัตกรรม และความยั่งยืนในภาคส่วนนี้ โดยบรรดาผู้เข้าร่วมประกอบด้วย เกษตรกร ซัพพลายเออร์ ผู้ค้าปลีก และองค์กรอุตสาหกรรม
กระทรวงการคลังเปิดเผยอีกว่า นายฮันท์ยังได้วางแผนที่จะเข้าพบกับ หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันของอังกฤษ (Competition and Markets Authority) หรือ CMA ซึ่งได้ให้คำมั่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะยกระดับการตรวจสอบราคาอาหารสด หลังจากที่ราคาอาหารพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 46 ปี ในเดือนมี.ค.
ข้อมูลจากทางการเปิดเผยว่า ราคาอาหารในอังกฤษพุ่งสูงขึ้น 19.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นับเป็นการเพิ่มขึ้นสูงที่สุด นับตั้งแต่เดือนส.ค. 2520 ส่วนในเดือนเม.ย. อัตราเงินเฟ้อจากราคาของชำ (grocery inflation) อยู่ที่ 17.3%
"อัตราเงินเฟ้อด้านอาหารส่งผลกระทบต่อครอบครัวที่มีรายได้ต่ำมากเกินไป ซึ่งพวกเขาต้องใช้จ่ายเงินไปกับค่าอาหารมากขึ้น และไม่สามารถเปลี่ยนไปซื้อของที่ซื้อประจำในราคาที่ถูกกว่าได้" แถลงการณ์ระบุ
ทางด้านคณะกรรมการฝ่ายนิติบัญญัติของอังกฤษกำลังตรวจสอบความเป็นธรรมในห่วงโซ่อุปทานอาหารของประเทศ เพื่อทำความเข้าใจว่าเพราะเหตุใดประชาชนถึงต้องเผชิญกับราคาอาหารที่สูงเช่นนี้