สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สินทรัพย์ของกองทุนรวมตลาดเงินสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ที่ 5.8 ล้านล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนหันไปลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งตรงกันข้ามกับวิกฤตเพดานหนี้ในปี 2554 ซึ่งมีเงินทุนไหลออกจากกองทุนจำนวนมาก
ข้อมูลของเครน ดาต้า (Crane Data) ระบุว่า กองทุนรวมตลาดเงิน ซึ่งเป็นแหล่งทุนระยะสั้นที่สำคัญขององค์กรและเทศบาล มีจำนวนเงินไหลเข้าสุทธิ 6.148 แสนล้านดอลลาร์แล้วในปีนี้ โดยมีเงินไหลเข้า 4.8 หมื่นล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเมื่อนับจนถึงวันจันทร์ (22 พ.ค.)
รายงานระบุว่า นักลงทุนยังคงเทเงินเข้าสู่ตลาด แม้จะมีความกังวลมากขึ้นว่าทำเนียบขาวและสภาคองเกรสอาจไม่สามารถประนีประนอมเพื่อเพิ่มเพดานหนี้ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ได้ก่อนถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 1 มิ.ย. จนส่งผลให้สหรัฐต้องผิดนัดชำระหนี้
แม้ว่ากองทุนรวมตลาดเงินจะถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่กองทุนเหล่านี้ก็เคยประสบปัญหาในช่วงวิกฤตก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่ของรัฐและสถาบันจัดอันดับได้เตือนว่า พวกเขาอาจยังคงเสี่ยงต่อการแห่ถอนเงินอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาที่เกิดภาวะตึงเครียด
เมื่อปี 2551 การล่มสลายของเลห์แมน บราเธอร์ส (Lehman Brothers) ทำให้ประชาชนแห่ถอนเงินออกจากกองทุนรวมตลาดเงินอย่างรวดเร็ว อีกทั้ง ยังเผชิญกับความกดดันอย่างหนักในเดือนมี.ค. 2563 หลังจากโรคโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก โดยเหตุการณ์ทั้งสองทำให้รัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุนภาคส่วนนี้และทบทวนกฎระเบียบใหม่
สถาบันอินเวสต์เมนต์ คอมพานี อินสติติวต์ (Investment Company Institute) ระบุว่า ในสัปดาห์ก่อนหน้าการบรรลุข้อตกลงเพดานหนี้ปี 2554 นั้น สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส (Standard & Poor's) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐเป็นครั้งแรก หลังนักลงทุนแห่ถอนเงิน 6.6 หมื่นล้านดอลลาร์จากกองทุนรวมตลาดเงิน ซึ่งในเวลานั้นกองทุนถือครองเงินทุนอยู่ประมาณ 2.6 ล้านล้านดอลลาร์ โดยนักลงทุนได้ย้ายเงินสดจำนวนมากไปฝากธนาคาร
แต่ในครั้งนี้ มีความแตกต่างที่สำคัญหลายประการ ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น กองทุนรวมตลาดเงินในปัจจุบันให้ผลตอบแทนสูงถึง 5% เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ของธนาคารซึ่งโดยทั่วไปให้ผลตอบแทนน้อยกว่า 1%
นอกจากนี้ ปีเตอร์ เครน ประธานบริษัทเครน ดาต้า ระบุเสริมว่า การล่มสลายของธนาคารสหรัฐเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนย้ายเงินสดจากบัญชีธนาคารไปยังกองทุนรวมตลาดเงิน