หุ้นอินวิเดีย (Nvidia) บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกจากสหรัฐพุ่งขึ้น 26% ในการซื้อขายหลังตลาดหลักทรัพย์สหรัฐปิดตลาดเมื่อวันพุธ (24 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่อินวิเดียรายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ของปีงบประมาณ 2567 แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์
ทั้งนี้ อินวิเดียรายงานเมื่อวานนี้ว่า กำไรต่อหุ้นของบริษัทอยู่ที่ 1.09 ดอลลาร์ในไตรมาส 1/2567 เทียบกับการคาดการณ์ที่ 92 เซนต์
ขณะที่รายได้อยู่ที่ 7.19 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1/2567 เทียบกับคาดการณ์ที่ 6.52 พันล้านดอลลาร์
อินวิเดียคาดการณ์ว่า ยอดขายจะอยู่ที่ประมาณ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ บวกหรือลบ 2% ในไตรมาสปัจจุบัน ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ที่ 7.15 พันล้านดอลลาร์กว่า 50%
ก่อนที่หุ้นอินวิเดียจะพุ่งขึ้นหลังเปิดเผยผลประกอบการครั้งล่าสุดนี้ หุ้นอินวิเดียได้พุ่งขึ้นแล้วถึง 109% ในปีนี้ โดยส่วนใหญ่นั้นได้รับแรงหนุนจากความเป็นผู้นำตลาดชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของอินวิเดีย โดยนายเจนเซ่น หวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอินวิเดียระบุว่า บริษัทมองเห็น "อุปสงค์ที่พุ่งทะยานขึ้น" สำหรับผลิตภัณฑ์ด้านศูนย์ข้อมูล
ธุรกิจด้านศูนย์ข้อมูลของอินวิเดียรายงานยอดขายที่ 4.28 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับการคาดการณ์ที่ 3.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 14% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยอินวิเดียระบุว่า ยอดขายที่แข็งแกร่งนี้ได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์สำหรับชิปหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) จากผู้ให้บริการคลาวด์ รวมถึงบริษัทอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้บริโภคขนาดใหญ่ซึ่งใช้ชิปของอินวิเดียในการฝึกฝนและจัดหาแอปพลิเคชัน Generative AI เช่น แชตจีพีที (ChatGPT) ของโอเพนเอไอ (OpenAI)