ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (25 พ.ค.) โดยนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐที่ยังคงยืดเยื้อ อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้นกว่า 200 จุด หลังจากหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) พุ่งขึ้นขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาด และเป็นปัจจัยหนุนหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น ๆ ที่เป็นผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งรวมถึงไมโครซอฟท์ และอัลฟาเบท
-- อินวิเดียซึ่งเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งในเดือนก.พ.-เม.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 1 ของปีงบการเงิน 2567 โดยบริษัทมีกำไรต่อหุ้น 1.09 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 92 เซนต์ และมีรายได้อยู่ที่ 7.19 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 6.52 พันล้านดอลลาร์
อินวิเดียคาดการณ์ว่า ยอดขายในไตรมาสปัจจุบันจะอยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ที่ 7.15 พันล้านดอลลาร์ โดยผลประกอบการของบริษัทได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งของอุปสงค์ชิปที่ใช้ในเทคโนโลยี AI
-- นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ ขณะที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้เครดิตพินิจ (Rating Watch) ของสหรัฐเป็นเชิงลบ และเตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ AAA เนื่องจากการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งอาจจะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์
รายงานล่าสุดระบุว่า ขณะนี้ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสมีความเห็นต่างกันในบางประเด็น ซึ่งรวมถึงประเด็นการใช้จ่ายในโครงการที่ริเริ่มโดยพรรคเดโมแครต เช่นการจัดหาที่อยู่อาศัยและการศึกษา ซึ่งมีมูลค่าราว 7 หมื่นล้านดอลลาร์
หากทำเนียบขาวและสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ภายในวันที่ 1 มิ.ย. ก็จะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์
-- นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียไม่สนับสนุนให้มีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มเติมในการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 4 มิ.ย.
ทั้งนี้ ในการประชุมเดือนเม.ย. ซาอุดีอาระเบียประกาศปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจจำนวน 500,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่โอเปกพลัสยืนยันตามมติในเดือนต.ค.2565 ในการปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปี 2566
-- ธนาคารกลางตุรกีประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 8.5% เมื่อคืนนี้ สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าธนาคารจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2566 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.3% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.1% และสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 1.1%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 229,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 245,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ทรงตัวที่ระดับ 231,750 ราย
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ทรงตัวที่ระดับ 78.9 ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีดีดตัวขึ้น 1.0% หลังจากร่วงลง 5.2% ในเดือนมี.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนีร่วงลง 20.3% ในเดือนเม.ย.
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ +0.07 ในเดือนเม.ย. จากระดับ -0.37 ในเดือนมี.ค.
การปรับตัวขึ้นของดัชนีได้รับแรงหนุนจากการผลิตและการจ้างงาน
ดัชนี CFNAI มีค่าเป็นบวก ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่สูงกว่าแนวโน้ม
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ สหรัฐจะมีการรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย. เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย ต่อด้วยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เวลา 21.00 น.