สำนักข่าว RIA ของรัสเซียรายงานโดยอ้างการวิเคราะห์ข้อมูลจากธนาคารกลางรัสเซียว่า นักลงทุนต่างชาติที่ถอนธุรกิจออกจากรัสเซียหลังจากที่ขายกิจการในรัสเซียระหว่างเดือนมี.ค. 2565 - มี.ค. 2566 นั้น ได้ถอนเงินออกจากรัสเซียราว 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์
บริษัทรายใหญ่ระดับโลกหลายแห่งได้ยุติการดำเนินธุรกิจหรือปรับลดขนาดธุรกิจในรัสเซีย เพื่อตอบโต้รัสเซียที่ส่งทหารเข้าทำสงครามในยูเครนนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2565
อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางรัสเซียคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจรัสเซียจะไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการถอนธุรกิจของบริษัทต่างชาติ โดยระบุว่า บริษัทต่างชาติมีการทำข้อตกลงการขายธุรกิจประมาณ 200 รายการในช่วงเดือนมี.ค. 2565 - มี.ค. 2566 ซึ่งมีเพียง 20% ที่เกี่ยวข้องกับการขายสินทรัพย์ขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าเกิน 100 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ รัสเซียเรียกปฏิบัติการในยูเครนว่าเป็นปฏิบัติการพิเศษทางทหาร ขณะที่ยูเครนและชาติพันธมิตรตะวันตกเรียกว่าเป็นการรุกรานเพื่อยึดดินแดน
รายงานล่าสุดระบุว่า นายดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย และเป็นคนสนิทของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า การเจรจากับยูเครนไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ตราบใดที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ยังคงเป็นผู้นำยูเครน นอกจากนี้ นายเมดเวเดฟระบุว่า ปธน.เซเลนสกีเหมือนกับตัวตลก และการเจรจากับรัฐบาลยูเครนชุดปัจจุบันจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้