หนังสือพิมพ์เดอะ สเตรทส์ไทม์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า จีนกำลังพิจารณาออกมาตรการจูงใจด้านภาษีใหม่แก่บรรดาบริษัทผู้ผลิตระดับไฮเอนด์ เนื่องจากจีนกำลังแสวงหาแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อแข่งกับสหรัฐ
แหล่งข่าวระบุว่า นโยบายด้านภาษีที่กำลังถูกพิจารณาอยู่ในขณะนี้ อาจช่วยให้เหล่าผู้ผลิตขั้นสูงประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้หลายแสนล้านหยวน อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวยังคงอยู่ระหว่างการขออนุมัติและอาจมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง
ทั้งนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนหลังโควิด-19 ระบาดนั้นกำลังชะลอตัว หลังข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า ภาคการส่งออกและการลงทุนกำลังซบเซาลงเป็นวงกว้าง การฟื้นตัวในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงแผ่ว และจำนวนคนหนุ่มสาวว่างงานพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ หุ้นจีนหลายตัวยังร่วงลง ค่าเงินหยวนทะลุ 7 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญเช่นทองแดงและแร่เหล็กทรุดลง ส่งผลให้นักลงทุนประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจจีนใหม่อีกครั้ง
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ได้ยกให้ "ระบบอุตสาหกรรมสมัยใหม่" เป็นหนึ่งในความสำคัญลำดับต้น ๆ ของจีนในการประชุมผู้นำระดับสูงในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทำให้เกิดการคาดการณ์กันว่า จีนจะออกมาตรการต่าง ๆ เช่น การมอบเงินอุดหนุนให้กับเหล่าผู้ผลิต นอกจากนี้ การประชุมรัฐสภาในเดือนพ.ค. ยังมีการหารือกันเกี่ยวกับการสนับสนุนธุรกิจการผลิตขั้นสูงของจีนในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่วัสดุชนิดใหม่, ชิป, ปัญญาประดิษฐ์ ไปจนถึงชีวเภสัชภัณฑ์
ขณะนี้ จีนกำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันให้เพิ่มมาตรการกระตุ้นทางการเงินและการคลัง แม้ว่าปีนี้เป้าหมายการเติบโตของจีนจะอยู่ที่ราว 5% แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเหล่าผู้กำหนดนโยบายของจีนจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบไม่เต็มที่ โดยอาจเลือกใช้มาตรการที่มีเป้าหมายเฉพาะเจาะจงมากกว่า เช่น การจูงใจด้านภาษี เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจ
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ประกาศการลดหย่อนภาษีในปีนี้ที่ 1.8 ล้านล้านหยวน (3.45 แสนล้านดอลลาร์) ลดลงมาจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.2 ล้านล้านหยวนเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวเพื่อเพิ่มแรงจูงใจด้านภาษีชี้ให้เห็นว่า ทางการอาจมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน