สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เกาหลีใต้กำลังใช้ประโยชน์จากข้อตกลงด้านอาวุธกับโปแลนด์มูลค่า 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของเกาหลีใต้ เพื่อวางรากฐานในการเป็นมหาอำนาจอุตสาหกรรมการทหาร โดยบริษัทด้านการค้าอาวุธของทั้งสองประเทศหวังว่าจะช่วยตอบสนองความต้องการอาวุธของยุโรปในอนาคต
กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ระบุว่า ยอดขายอาวุธของเกาหลีใต้ปี 2565 พุ่งขึ้นกว่า 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิม 7.25 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า การเพิ่มขึ้นดังกล่าวเกิดจากชาติตะวันตกระดมส่งมอบอาวุธให้แก่ยูเครน รวมถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคอื่น ๆ เช่น เกาหลีเหนือและทะเลจีนใต้
เมื่อปีที่ผ่านมา ข้อตกลงด้านอาวุธของเกาหลีใต้กับโปแลนด์ ซึ่งเป็นสมาชิกสำคัญของนาโต้ ประกอบด้วยเครื่องยิงจรวดชอนมูหลายร้อยเครื่อง, รถถัง K2, ปืนใหญ่อัตตาจรแบบสายพาน K9 และเครื่องบินขับไล่ FA-50 มูลค่าและจำนวนอาวุธที่เกี่ยวข้องทำให้ข้อตกลงนี้โดดเด่นเป็นพิเศษแม้ในกลุ่มประเทศผู้นำด้านกลาโหมระดับโลกก็ตาม
เจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้และโปแลนด์กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศจะช่วยให้พวกเขาเหนือกว่าตลาดอาวุธในยุโรปได้แม้หลังจบสงครามยูเครนไปแล้วก็ตาม โดยเกาหลีใต้จะจัดส่งอาวุธคุณภาพสูงได้เร็วกว่าประเทศอื่น ๆ ส่วนโปแลนด์มีกำลังการผลิตและเครือข่ายการขายทั่วยุโรป
นอกจากนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ได้พูดคุยกับผู้บริหารบริษัทและเจ้าหน้าที่รัฐบาล 13 ราย รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับข้อตกลง ซึ่งกล่าวว่า ข้อตกลงนี้เป็นพิมพ์เขียวสำหรับการใช้ประโยชน์จากกลุ่มบริษัทและความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนระหว่างประเทศ เพื่อขยายอิทธิพลของเกาหลีใต้และบรรลุเป้าหมายในการก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์อาวุธรายใหญ่ที่สุดในโลก
ทั้งนี้ โอ กเยฮวาน ผู้อำนวยการของบริษัทฮันฮวา แอโรสเปซ (Hanwha Aerospace) ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อตกลงดังกล่าว ระบุว่า " ก่อนหน้านี้ สาธารณรัฐเช็ก, โรมาเนีย, สโลวาเกีย, ฟินแลนด์, เอสโตเนีย, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย และประเทศอื่น ๆ คิดจะซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เฉพาะในยุโรปเท่านั้น แต่ปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า คุณหาซื้ออาวุธได้ในราคาถูกและจัดส่งเร็วจากบริษัทของเกาหลี"