ดัชนี Hang Seng China Enterprises Index (HSCEI) ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง และเป็นดัชนีบ่งชี้เสถียรภาพของตลาดหุ้นจีนด้วยนั้น ส่งสัญญาเข้าสู่ภาวะตลาดหมี เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และข้อพิพาทระหว่างจีนและสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนี HSCEI ปรับตัวลง 0.7% ในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกัน 5 วันทำการ และนับตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.จนถึงขณะนี้ ดัชนี HSCEI ร่วงลงไปแล้ว 20% โดยหุ้นเหม่ยถ้วน และหุ้นเทนเซ็นต์ ดิ่งลงหนักสุดในบรรดาหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกง
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน หลังจากจีนรายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 5.6% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 10.9% ขณะที่ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 18.4% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 21%
ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดขายปลีกที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดในเดือนเม.ย.สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มอ่อนแอลงในช่วงครึ่งหลังปีนี้ และบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนยังคงฟื้นตัวอย่างอ่อนแรงหลังผ่านพ้นช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นอกจากนี้ ข้อพิพาทระหว่างจีนและสหรัฐยังเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน โดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์สเปซของจีน (CAC) สั่งห้ามการจำหน่ายชิปของบริษัทไมครอน เทคโนโลยี (Micron Technology) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปของสหรัฐ ขณะที่สภาชิกสภาคองเกรสสหรัฐเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐตอบโต้ด้วยการระงับการจำหน่ายชิปของบริษัทฉางซิน เมมโมรี เทคโนโลยีส์ (Changxin Memory Technologies) หรือ CXMT บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของจีน