หนังสือพิมพ์โยมิอุริรายงานในวันนี้ (30 พ.ค.) ว่า บริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปของญี่ปุ่น จะขยายเวลาในการระงับการผลิตรถยนต์ในจีนออกไป จากเดิมที่เคยระบุว่าจะระงับการผลิตถึงเดือนพ.ค.ซึ่งตอกย้ำความยากลำบากที่บริษัทกำลังเผชิญท่ามกลางกระแสนิยมรถไฟฟ้าในจีน ซึ่งเป็นตลาดยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โฆษกของมิตซูบิชิ มอเตอร์สระบุว่า บริษัทกำลังหารือเกี่ยวกับกำหนดเวลาที่จะกลับมาดำเนินการผลิตรถยนต์ในจีนกับพันธมิตรในท้องถิ่น และกล่าวเสริมว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง
มิตซูบิชิ มอเตอร์สกล่าวเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า บริษัทได้ตัดสินใจระงับการผลิตรถ SUV รุ่นเอาท์แลนเดอร์ (Outlander) ในจีนชั่วคราวเป็นเวลา 3 เดือนตั้งแต่เดือนมี.ค.จนถึงสิ้นเดือนพ.ค. และจะต้องเสียค่าใช้จ่าย 78 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดขายที่ลดลงจากการร่วมทุนกับจีเอซี กรุ๊ป (GAC Group) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รถ SUV ครองส่วนแบ่งมากที่สุดในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีน ซึ่งการลดราคาและการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของแบรนด์ในประเทศและต่างประเทศทำให้ยอดขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันลดลง
หนังสือพิมพ์โยมิอุริรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่ไม่ระบุชื่อว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งตั้งสำนักงานในจีนในปี 2555 ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะกลับมาเริ่มเดินสายการผลิตในจีนอีกครั้งเมื่อใด
ขณะเดียวกัน มิตซูบิชิ มอเตอร์สและผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายอื่น ๆ ต่างเผชิญกับวิกฤตยอดขายในจีน เนื่องจากประชาชนเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ยอดซื้อรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในลดลง
ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์สได้เปิดตัวรถรุ่นเอาท์แลนเดอร์รุ่นใหม่ในจีน เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว