ข้อมูลที่มีการเผยแพร่ครั้งล่าสุดบ่งชี้ว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์จีนยังคงเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบาก แม้ว่าเมื่อต้นปีที่ผ่านมาจะมีสัญญาณฟื้นตัวให้เห็นบ้างก็ตาม โดยรายงานล่าสุดระบุว่ายอดขายบ้านใหม่ของจีนเริ่มชะลอตัวอีกครั้ง
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ข้อมูลจากรายงาน China Beige Book ประจำเดือนพ.ค.ซึ่งอ้างอิงการสำรวจของบริษัทวิจัยจำนวน 1,085 แห่งในระหว่างวันที่ 18-25 พ.ค.บ่งชี้ว่า "ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนเผชิญกับสถานการณ์ที่พลิกผันไปจากผลสำรวจในเดือนเม.ย. โดยราคาในตลาดที่อยู่อาศัยปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ยอดขายกลับชะลอตัวลง
"ส่วนภาคอสังหาเชิงพาณิชย์นั้น พบว่ามีการทำธุรกรรมและราคาลดลงอย่างมาก ขณะที่การก่อสร้างอ่อนแอลง และมาตรการกระตุ้นด้านการคลังที่ลดลงได้ส่งผลให้รายได้และการผลิตของกลุ่มบริษัทผลิตทองแดงหดตัวลงในเดือนพ.ค." รายงานระบุ
ในปี 2565 ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ผ่อนคลายแรงกดดันต่อกลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หลังจากที่เคยใช้มาตรการควบคุมการก่อหนี้ของภาคส่วนนี้ในเดือนส.ค. 2563
ข้อมูลจากมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ระบุว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคส่วนนี้มีสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 4 ของระบบเศรษฐกิจจีน
นายติง ลู่ นักวิเคราะห์จากบริษัทโนมูระกล่าวว่า ยอดขายบ้านใหม่ของจีนในช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 พ.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 11.8% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากจากการขยายตัว 24.8% ในสัปดาห์ก่อนหน้า นอกจากนี้ อัตราการขยายตัวของทั้งสองสัปดาห์ดังกล่าวยังต่ำกว่าในช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่โรคโควิด-19 จะแพร่ระบาด โดยรายงานระบุว่า ยอดขายที่ลดลงส่วนใหญ่อยู่ในเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจีน
ทางด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังคงเปราะบาง โดยยอดการลงทุนปรับตัวลง 6.2% ในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย. หลังจากที่ลดลง 5.8% ในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.