สำนักข่าวไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานในวันนี้ (31 พ.ค.) ว่า นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ ระบุว่า เธอไม่เห็นเหตุผลที่มีน้ำหนักมากพอที่ทำให้ต้องระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป
"ดิฉันไม่เห็นเหตุผลที่มีน้ำหนักมากพอจนถึงขั้นทำให้เฟดต้องระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และดิฉันคิดว่า ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่านี้ก่อนแล้วจึงคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ระยะเวลาหนึ่ง จนกระทั่งแน่ใจมากขึ้นว่าทิศทางเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรต่อไป" นางเมสเตอร์กล่าว
ความคิดเห็นของนางเมสเตอร์มีขึ้นหลังจากที่ผู้กำหนดนโยบายบางรายของเฟดบอกใบ้เป็นนัยว่า พวกเขาอาจสนับสนุนให้ระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. เพื่อประเมินผลกระทบจากมาตรการคุมเข้มทางการเงินของเฟดในช่วงที่ผ่านมาก่อน
รายงานระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 10 ครั้งติดต่อกันของเฟด ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 5.00-5.25%
นอกจากนี้ นางเมสเตอร์ยังระบุอีกว่า ข้อตกลงขยายเพดานหนี้ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐสามารถบรรเทาความไม่แน่นอนครั้งใหญ่ด้านเศรษฐกิจได้