สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายการขยายเพดานหนี้ ด้วยคะแนนเสียง 314 ต่อ 117 เสียง ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์
ร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า "พ.ร.บ.ความรับผิดชอบทางการคลัง" (Fiscal Responsibility Act) จะส่งต่อเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาสหรัฐ และหากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบ ก็จะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ลงนามเป็นกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
ทั้งนี้ กระบวนการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้จะต้องเสร็จสิ้นก่อนเส้นตายวันที่ 5 มิ.ย. มิฉะนั้นสหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
-- นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย.หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 358,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.1 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 9.375 ล้านตำแหน่ง หลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน
นักวิเคราะห์ระบุว่า การเพิ่มขึ้นของตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ท่ามกลางภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานนั้น เป็นปัจจัยหนุนการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อ เนื่องจากพนักงานจะมีอำนาจต่อรองในการขอขึ้นค่าแรงต่อนายจ้าง ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันต่อเฟดในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.
-- นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 4 มิ.ย. ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการประชุมในครั้งนี้ หลังจากนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียไม่สนับสนุนให้มีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มเติมในการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 มิ.ย. เนื่องจากเมื่อเดือนที่แล้ว สมาชิกบางประเทศเพิ่งประกาศปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจ
-- คณะกรรมการกลางด้านการป้องกัน ควบคุม และรักษาโรคโควิด-19 ของเมียนมา ประกาศขยายเวลาการใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. จากเดิมมีกำหนดสิ้นสุดเมื่อวานนี้ (31 พ.ค.)
กระทรวงสาธารณสุขและการกีฬาของเมียนมาแถลงว่า เมียนมามีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 638,818 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิต 19,494 ราย
-- พนักงานของอะเมซอนทั่วโลกราว 1,900 คน นัดหยุดงานเมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) เพื่อประท้วงคำสั่งกลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศ รวมทั้งแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการปลดพนักงาน และการที่บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามเป้าหมายการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
กลุ่ม Amazon Employees for Climate Justice เป็นแกนนำในการจัดการนัดหยุดงานประท้วงดังกล่าว พร้อมกับออกแถลงการณ์ว่า "การผละงานดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นว่าพนักงานขาดความไว้วางใจต่อการตัดสินใจของผู้นำบริษัท" โดยแถลงการณ์มีขึ้น หลังจากที่บริษัทประกาศปลดพนักงาน 27,000 คน ซึ่งเป็นการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 29 ปีของบริษัท และได้สั่งให้พนักงานกลับเข้าทำงานที่สำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์
-- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติเตรียมพร้อมรับมือ "สถานการณ์เลวร้ายที่สุด" ซึ่งเป็นภัยคุกคามจากภายในและภายนอกประเทศ
"เรากำลังเผชิญกับปัญหาที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในด้านความมั่นคงแห่งชาติ ทำให้เราต้องมีแนวคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด และเตรียมพร้อมรับมือการทดสอบจากคลื่นลมแรงในทะเลที่ปั่นป่วน" ปธน.สีระบุ
-- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จะจัดการประชุมกับประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยปธน.ปูติน ได้ส่งสารแสดงความยินดีต่อปธน.เออร์โดกัน หลังคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 3 เมื่อวันอาทิตย์ (28 พ.ค.)
ทั้งนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่า การประชุมดังกล่าวจะเกิดขึ้นที่ใด และเมื่อใด
-- นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา (Tesla) มีกำหนดเดินทางเยือนโรงงานผลิตรถยนต์ของเทสลาในเมืองเซี่ยงไฮ้ในคืนวานนี้ (31 พ.ค.) โดยนายมัสก์ได้เดินทางถึงจีนเมื่อวันอังคาร (30 พ.ค.) ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี
ทั้งนี้จีนนับเป็นตลาดรถยนต์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเทสลารองจากสหรัฐ และโรงงานผลิตรถยนต์ของเทสลาในเมืองเซี่ยงไฮ้ถือเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดของเทสลา
-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของหลายประเทศในวันนี้ ซึ่งรวมถึงดุลการค้าเดือนพ.ค.ของเกาหลีใต้ ขณะที่หลายประเทศจะรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ค. ซึ่งรวมถึงฝรั่งเศส เยอรมนี อียู อังกฤษ และสหรัฐ