วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 63 ต่อ 36 เสียง ผ่านร่างกฎหมายการขยายเพดานหนี้และปรับลดการใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นเวลา 2 ปี และขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งให้กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อลงนามบังคับใช้ต่อไป
ทั้งนี้ คาดว่าปธน.ไบเดนจะลงนามร่างกฎหมายดังกล่าวในวันศุกร์ (2 มิ.ย.) ก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายการผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 5 มิ.ย.
การลงมติในวุฒิสภาวันนี้ มีขึ้นหลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายการขยายเพดานหนี้ ด้วยคะแนนเสียง 314 ต่อ 117 เสียงเมื่อวานนี้ ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์
ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาการโหวตร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ของสหรัฐอย่างใกล้ชิด หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเตือนว่า รัฐบาลสหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้หากสภาคองเกรสไม่อนุมัติร่างกฎหมายการขยายเพดานหนี้ภายในวันที่ 5 มิ.ย. ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความน่าเชื่อถือของสหรัฐ อีกทั้งจะส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจทั่วโลกด้วย
ทางด้านสำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐ (CBO) คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐจะลดลงราว 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า หากร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสและมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย