กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (8 มิ.ย.) ว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในเดือนเม.ย.ขยายตัว 76.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 1.9 ล้านล้านเยน (1.36 หมื่นล้านดอลลาร์) เนื่องจากยอดขาดดุลการค้าลดลงท่ามกลางราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง
รายงานระบุว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดด้านการค้าระหว่างประเทศ ยังคงเกินดุลเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยยอดขาดดุลการค้าสินค้าหดตัว 83.5% แตะ 1.131 แสนล้านเยน
ส่วนยอดนำเข้าลดลง 4.1% จากปีก่อนหน้าสู่ระดับ 8.34 ล้านล้านเยน หลังจากราคาน้ำมันดิบลดลง 22.6% สู่ระดับ 83.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ยอดนำเข้าลดลงในรอบ 2 ปี 3 เดือน
ขณะที่ยอดส่งออกขยายตัว 2.6% แตะ 8.22 ล้านล้านเยน นำโดยการส่งออกรถยนต์และอุปกรณ์เกี่ยวกับสายตาที่เพิ่มขึ้น
ส่วนรายได้ปฐมภูมิ (primary income) ซึ่งสะท้อนถึงรายได้จากการลงทุนในต่างประเทศนั้น มีการเกินดุลอยู่ที่ระดับ 3.07 ล้านล้านเยน ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.1% โดยได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในต่างประเทศ และเงินเยนที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินอื่น ๆ
ทั้งนี้ กระทรวงฯ ระบุว่า ยอดเกินดุลของรายได้ปฐมภูมิแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเม.ย.