อินสตาแกรมของบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์, ยูทูบของบริษัทอัลฟาเบท, ติ๊กต็อก และทวิตเตอร์ อาจเผชิญกับการดำเนินการทางกฎหมาย หลังจากองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคยุโรป (BEUC) ร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) และหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคว่า แพลตฟอร์มออนไลน์เหล่านี้ช่วยส่งเสริมการโฆษณาสินทรัพย์ดิจิทัลในทางที่ผิด
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบของสหรัฐยื่นฟ้องดำเนินคดีกับแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น คอยน์เบส และไบแนนซ์ รวมถึงการล่มสลายของ FTX เมื่อปีที่ผ่านมา ได้สร้างความกังวลด้านการคุ้มครองผู้บริโภคที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น บิตคอยน์ และ อีเทอร์
เมื่อเดือนพ.ค. EU ได้ออกกฎหมายชุดแรกที่กำหนดการกำกับดูแลอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีอย่างครอบคลุม หรือ Markets in Crypto Act (MiCA)
BEUC ได้ระบุในเอกสารการยื่นร้องเรียนในวันนี้ (8 มิ.ย.) ว่า การแพร่หลายของโฆษณาที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสินทรัพย์ดิจิทัลบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม เนื่องจากทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตรายร้ายแรง เช่น การสูญเสียเงินจำนวนมาก พร้อมเสริมว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นผ่านการโฆษณาและเหล่าอินฟลูเอนเซอร์
ขณะเดียวกัน BEUC ได้เรียกร้องให้เครือข่ายความร่วมมือเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคในยุโรปกำหนดให้แพลตฟอร์มออนไลน์ดำเนินนโยบายการโฆษณาเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลที่เข้มงวดมากขึ้น และใช้มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้อินฟลูเอนเซอร์หลอกลวงผู้บริโภค
นอกจากนี้ BEUC ยังเสนอให้หน่วยงานผู้บริโภคในยุโรปร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบด้านบริการทางการเงินของยุโรป เพื่อสร้างความมั่นใจว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้จะปรับปรุงนโยบายการโฆษณา เพื่อป้องกันการส่งเสริมสินทรัพย์ดิจิทัลในทางที่ผิด
นางโมนิค โกเยนส์ ผู้อำนวยการองค์กร BEUC ระบุในแถลงการณ์ว่า "สกุลเงินดิจิทัลจะถูกกำกับดูแลในไม่ช้าด้วยกฎหมาย Mica แต่กฎหมายนี้ใช้ไม่ได้กับบริษัทโซเชียลมีเดียที่ได้รับประโยชน์จากการโฆษณาสกุลเงินดิจิทัล แม้ผู้บริโภคจะได้รับผลกระทบก็ตาม"
"นี่คือเหตุผลที่เราต้องหันหน้าไปพึ่งพาหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อให้แน่ใจว่า อินสตาแกรม, ยูทูบ, ติ๊กต็อก และทวิตเตอร์ ปฏิบัติตามหน้าที่ในการปกป้องผู้บริโภคจากการถูกหลอกลวงเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลและความฝันลมๆแล้งๆ" นางโกเยนส์กล่าวเสริม