องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) คาดการณ์ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจในอินเดียจะแซงหน้าจีนในปีนี้และปีหน้า
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฉบับล่าสุดนั้น OECD คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอินเดีย จีน และอินโดนีเซีย จะขยายตัวสูงสุดในปี 2566 และ 2567 ขณะเดียวกัน OECD คาดว่าเศรษฐกิจโลกโดยรวมในปีนี้จะขยายตัว 2.7%
รายงานระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวจะเป็นอัตราการขยายตัวรายปีต่ำที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลก ยกเว้นในปี 2563 ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
แคลร์ ลอมบาร์เดลลี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ OECD กล่าวว่า "ราคาพลังงานและอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ลดลง ภาวะคอขวดด้านอุปทานที่ผ่อนคลายลง และการกลับมาเปิดเศรษฐกิจของจีน ควบคู่ไปกับการจ้างงานที่แข็งแกร่งและฐานะการเงินครัวเรือนที่ฟื้นตัว ล้วนเป็นปัจจัยที่หนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ"
OECD คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัว 6% ในปี 2566, เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 5.4% และเศรษฐกิจอินโดนีเซียจะขยายตัว 4.7%
นอกจากนี้ OECD ระบุว่า แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งปี 2565 ของอินเดียนั้นคาดว่าจะดำเนินต่อไปในปีนี้ หลังจากผลผลิตภาคเกษตรสูงเกินคาดและการใช้จ่ายของภาครัฐเป็นไปอย่างแข็งแกร่ง พร้อมเสริมว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 จะช่วยหนุนการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน
ทั้งนี้ OECD ยังคาดการณ์ด้วยว่า ธนาคารกลางของอินเดียจะหันมาเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเล็กน้อยตั้งแต่กลางปีหน้า