ธนาคารยูบีเอส (UBS) กล่าวในวันนี้ (12 มิ.ย.) ว่า ธนาคารได้เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการเครดิต สวิสแบบเร่งด่วน ซึ่งก่อเกิดเป็นธนาคารสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ขนาดใหญ่ที่มีงบดุลถึง 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ และเป็นดีลในภาคการธนาคารครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกในปี 2551
"นี่เป็นการเริ่มต้นบทใหม่สำหรับยูบีเอสและสวิตเซอร์แลนด์ในฐานะศูนย์กลางการเงินและอุตสาหกรรมการเงินโลก" นายเซอร์จิโอ เออร์มอตติ ซีอีโอของยูบีเอส และนายโคล์ม เคลเลเฮอร์ ประธานยูบีเอส ระบุในจดหมายเปิดผนึกที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์สวิตเซอร์แลนด์เจ้าต่าง ๆ
จดหมายระบุว่า การควบรวมครั้งนี้จะสร้าง "ความท้าทาย" แต่ยังรวมถึง "โอกาสมากมาย" สำหรับลูกค้า, พนักงาน, ผู้ถือหุ้น และสำหรับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ด้วย แน่นอนว่าเราจะจัดการกับการเทคโอเวอร์ได้สำเร็จ
ทางกลุ่มจะดูแลสินทรัพย์มูลค่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ ทำให้ยูบีเอส ซึ่งเป็นผู้จัดการความมั่งคั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก กลายเป็นผู้นำในตลาดสำคัญ ๆ ทันที จากเดิมที่หากไม่มีการควบรวม ยูบีเอสอาจต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการขยายขนาดกิจการและฐานลูกค้า
นอกจากนี้ การควบรวมกิจการครั้งนี้ยังทำให้ประวัติศาสตร์ 167 ปีของเครดิต สวิสต้องปิดฉากลง หลังจากที่เผชิญเรื่องอื้อฉาวและการขาดทุนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ธนาคารทั้งสองแห่งจะมีจำนวนพนักงานรวมกัน 120,000 คนทั่วโลก อย่างไรก็ดี ทางยูบีเอสได้กล่าวไปแล้วว่าจะเลิกจ้างบางส่วนเพื่อลดต้นทุนและใช้ประโยชน์จากการผนึกกำลังกันครั้งนี้
อนึ่ง เมื่อวันศุกร์ที่ 9 มิ.ย. รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์เห็นชอบในการรับประกันภาวะขาดทุนสูงถึง 9 พันล้านดอลลาร์ฟรังก์สวิส หรือ 9.96 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่ยูบีเอสอาจเผชิญจากการขายสินทรัพย์ของเครดิต สวิส นอกเหนือจากเงิน 5 พันล้านฟรังก์สวิสที่ยูบีเอสจะรับผิดชอบด้วยตนเอง
ด้านยูบีเอสตั้งเป้าที่จะบันทึกผลกำไรจำนวนมหาศาลในผลประกอบการไตรมาสสองในวันที่ 31 ส.ค.นี้ หลังจากซื้อเครดิต สวิส มาในราคาเพียงเศษเสี้ยวของมูลค่ายุติธรรม
อย่างไรก็ดี นายเออร์มอตติเตือนว่าเส้นทางในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะไม่ราบรื่น ในขณะที่ยูบีเอสดำเนินการดูดซับกิจการเครดิต สวิสต่อไป ซึ่งเป็นกระบวนการที่ยูบีเอสกล่าวว่าจะใช้เวลา 3-5 ปี