ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดในวันพฤหัสบดี ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการที่ทำให้ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก
-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามการคาดการณ์ของตลาด โดยเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 8 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ ECB ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
-- นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งในปีนี้ ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า แม้ว่าตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (dot plot) ในการประชุมเฟด บ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 71.9% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 28.1% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%
-- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลง หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลง ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกของเฟดในอนาคต และเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นแอปเปิ้ลและหุ้นไมโครซอฟท์ซึ่งต่างก็พุ่งทำนิวไฮ
-- ประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี กล่าวว่า สวีเดนยังดำเนินการไม่เพียงพอที่จะทำให้ตุรกีให้ความเห็นชอบต่อการเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต)
ทั้งนี้ ฟินแลนด์และสวีเดนต่างยื่นสมัครเป็นสมาชิกนาโตพร้อมกันในเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว และฟินแลนด์ได้รับการอนุมัติให้เป็นสมาชิกในเดือนเม.ย. แต่สวีเดนยังคงไม่ผ่านการรับรองจากตุรกีและฮังการี
ปธน.เออร์โดกันแสดงความไม่พอใจต่อสวีเดนก่อนหน้านี้ หลังเกิดเหตุการณ์เผาคัมภีร์อัลกุรอานที่กรุงสตอกโฮล์ม
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 262,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2564 ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 235,000 ราย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย.
ยอดค้าปลีกได้รับแรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ปรับตัวลงสู่ระดับ -13.7 ในเดือนมิ.ย. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -14.8 จากระดับ -10.4 ในเดือนพ.ค.
อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกอยู่ในภาวะหดตัว โดยหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ +6.6 ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -16.0 จากระดับ -31.8 ในเดือนพ.ค.
ดัชนีภาคการผลิตได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ แม้ว่าการจ้างงานปรับตัวลง
ดัชนีอยู่สูงกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะขยายตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐลดลง 0.2% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนเม.ย.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนมี.ค.
เมื่อเทียบรายปี สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจพุ่งขึ้น 5.2% ในเดือนเม.ย.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวลง 0.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 0.5% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าดิ่งลง 5.9% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2563 หลังจากปรับตัวลง 4.9% ในเดือนเม.ย.
การร่วงลงของดัชนีราคานำเข้ามีสาเหตุจากการปรับตัวลงของราคาอาหารและพลังงาน
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย เวลา 10.00 น. ตามเวลาไทย โดยตลาดคาดการณ์ว่า คณะกรรมการ BOJ จะคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษในการประชุมครั้งนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อ, การขยายตัวของค่าแรง และการดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก
ตลาดคาดการณ์ว่า BOJ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีไว้ที่ระดับ 0%
นอกจากนี้ ตลาดคาดการณ์ว่า BOJ อาจส่งสัญญาณว่าเงินเฟ้อกำลังดีดตัวสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ ซึ่งจะทำให้มีโอกาสมากขึ้นที่ BOJ จะปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในการทบทวนรายไตรมาสที่จะมีขึ้นในเดือนก.ค.
ต่อมาสหรัฐจะรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เวลา 21.00 น.