ตลาดจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะแถลงรายงานนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพุธที่ 21 มิ.ย. และจากนั้นจะแถลงรายงานนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐในวันพฤหัสบดีที่ 22 มิ.ย.
ทั้งนี้ นายพาวเวลมีแนวโน้มที่จะถูกซักถามเกี่ยวกับการที่เฟดตัดสินใจระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 10 ครั้งติดต่อกันนับตั้งแต่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 2565 และคาดว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครตจะกดดันให้นายพาวเวลอธิบายเกี่ยวกับการปรับปรุงแนวทางการกำกับดูแลด้านการเงิน หลังจากมีธนาคาร 3 แห่งของสหรัฐประสบปัญหาล้มละลายในปีนี้
-- ตลาดหุ้น, น้ำมัน, ทองคำ และตลาดเงินสหรัฐจะปิดทำการในวันนี้ ( 19 มิ.ย.) เนื่องในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth) เพื่อรำลึกถึงการสิ้นสุดของการค้าทาสในอเมริกา
ส่วนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1.2%, S&P500 เพิ่มขึ้น 2.6% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 3.2% ขณะที่สัญญาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 2.3% และสัญญาทองคำปรับตัวลงทั้งสิ้น 0.3%
-- นักลงทุนจับตาธนาคารกลางจีนเตรียมแถลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี และ 5 ปี ในวันพรุ่งนี้ (20 มิ.ย.)
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ทั้งประเภท 1 ปีและ 5 ปีในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนลง 0.10% สู่ระดับ 2.65% จากระดับ 2.75% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีของจีนเป็นดัชนีวัดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของภาคเอกชน ส่วนอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีเป็นดัชนีวัดทิศทางอัตราดอกเบี้ยของภาคครัวเรือน ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเพื่อการกู้จำนอง
-- ตลาดรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐหลายรายการในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนหน้า โดยสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมิ.ยจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 1/2566, ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนพ.ค.จากเฟดชิคาโก, ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค., ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ค.จาก Conference Board, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล
-- คอยน์เดสค์ (CoinDesk) รายงานในวันนี้ (17 มิ.ย.) ว่า ไบแนนซ์ (Binance), ไบแนนซ์.ยูเอส (Binance.US) และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ได้ประกาศข้อตกลงที่รับประกันว่า จะมีเพียงพนักงานของไบแนนซ์.ยูเอสเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงเงินทุนของลูกค้าได้ในขณะนี้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและปกป้องเงินทุนของลูกค้า
รายงานระบุว่า ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวซึ่งยังคงต้องได้รับอนุมัติจากผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางที่ดูแลคดีนั้น ไบแนนซ์.ยูเอส จะดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ของไบแนนซ์ โฮลดิงส์ที่สามารถเข้าถึงกุญแจส่วนตัวสำหรับกระเป๋าเงินต่างๆ , กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ หรือการเข้าถึงเครื่องมือ Amazon Web Services ของไบแนนซ์.ยูเอส
-- กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐไม่พบว่ามีคู่ค้ารายใหญ่ใด ๆ ที่ทำการปั่นค่าเงินเพื่อให้เกิดความได้เปรียบในด้านการส่งออก และสหรัฐยังได้ยุติการตรวจสอบเชิงลึกเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติด้านสกุลเงินของสวิตเซอร์แลนด์แล้ว เนื่องจากสวิตเซอร์แลนด์สามารถผ่าน 1 ใน 3 เกณฑ์เกี่ยวกับการปั่นค่าเงิน
ในรายงานด้านสกุลเงินรอบครึ่งปีนั้น กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า สวิตเซอร์แลนด์ยังคงอยู่ใน "รายชื่อประเทศที่ต้องจับตา" อย่างใกล้ชิดในด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและนโยบายเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับประเทศคู่ค้าอีก 6 รายได้แก่ จีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ เยอรมนี มาเลเซีย และสิงคโปร์
-- นักลงทุนจับตาธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีแนวโน้มที่จะเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา หลังจากเงินเยนร่วงลงอย่างหนัก ภายหลังจาก BOJ มีมติคงนโยบายการเงินผ่อนคลายเป็นพิเศษเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ กล่าวว่า "ในทางทฤษฎี การอ่อนค่าของเยนถือเป็นปัจจัยบวกกับบางภาคส่วน แต่ก็เป็นปัจจัยลบกับอีกหลายภาคส่วน โดยผลกระทบเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับความเคลื่อนไหวของเยนในช่วงเวลานั้น แต่สิ่งที่สำคัญคือค่าเงินควรจะเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพและสะท้อนปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ"
นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า การที่ผู้ว่าการ BOJ กล่าวถึงค่าเงินเยนอย่างเปิดเผย ทำให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงตลาดครั้งใหม่ หลังจากที่ได้เข้าแทรกแซงตลาดในปีที่แล้ว โดยใช้วงเงินสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 6.35 ล้านล้านเยน (4.3 หมื่นล้านดอลลาร์) หลังจากที่เยนดิ่งลงแตะระดับ 151.94 เทียบดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 32 ปี