นายชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่นกล่าวในวันอังคาร (20 มิ.ย.) ว่า ญี่ปุ่นกำลังติดตามความเคลื่อนไหวของสกุลเงินอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศยังคงมีเสถียรภาพและสะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแตะระดับ 142 เยน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน
นายซูซูกิกล่าวว่า หลังจากที่สหรัฐถอดญี่ปุ่นออกจากรายชื่อประเทศที่ต้องเฝ้าระวังเรื่องค่าเงิน ญี่ปุ่นจะยังคงสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับสหรัฐและประเทศอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง และดำเนินขั้นตอนที่เหมาะสมเกี่ยวกับนโยบายสกุลเงิน
"ระดับของดอลลาร์-เยนถูกกำหนดโดยตลาด และขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐาน แต่ค่าเงินควรเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพ ซึ่งนี่คือจุดยืนพื้นฐานของเรา" นายซูซูกิกล่าวในการแถลงข่าว "เรากำลังเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างใกล้ชิด"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การตัดสินใจของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษ (ultra-low interest rates) นั้น ได้ถูกมองว่าเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง
ทั้งนี้ ค่าเงินเยนร่วงลงเร็วขึ้นนับตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่ BOJ ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะลดมาตรการกระตุ้นด้านการเงิน ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว แต่ก็ได้ส่งสัญญาณว่ามีแผนปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในอนาคตเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
ในปี 2565 ญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดด้วยการซื้อเงินเยนและการขายเงินดอลลาร์สหรัฐ เพื่อยับยั้งการอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วของเงินเยน ซึ่งผลกระทบจากการอ่อนค่าของเงินเยนยังคงมีอยู่จนถึงขณะนี้ โดยประชาชนต้องรับมือกับราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่พุ่งสูงขึ้น