นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐคาดการณ์ว่า ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยนั้นลดน้อยลง แต่ความพยายามในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อนั้นอาจเป็นสิ่งที่ต้องแลกมาด้วยการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง
ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อวันพฤหัสบดี (22 มิ.ย.) นางเยลเลนกล่าวว่า โอกาสที่เศรษฐกิจจะถดถอยนั้นลดลง อันเนื่องจากมาจากการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน และระดับเงินเฟ้อกำลังลดต่ำลง
"ดิฉันจะไม่พูดว่ามันไม่ใช่ความเสี่ยง เพราะธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำลังดำเนินนโยบายคุมเข้ม" นางเยลเลนกล่าว โดยอ้างถึงการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 10 ครั้งนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2565 และอาจปรับเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
การประเมินทิศทางเศรษฐกิจของนางเยลเลนในครั้งนี้มีขึ้น หลังจากการรายงานตัวเลขการจ้างงานเดือนพ.ค.ที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดการณ์ของบรรดานักเศรษฐศาสตร์ นอกจากนี้ ข้อมูลการสร้างบ้านและยอดค้าปลีกในเดือนพ.ค.ก็ยังแสดงให้ถึงการฟื้นตัวที่น่าประหลาดใจ ท่ามกลางการดำเนินการนโยบายคุมเข้มทางการเงินของเฟด
"เราน่าจะได้เห็นการชะลอตัวของการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ในกรณีที่ต้องทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม" นางเยลเลนกล่าวโดยอ้างอิงถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งไม่รวมอาหารสดและพลังงาน ที่ยังคงอยู่ระดับที่ค่อนข้างสูง
การรายงานตัวเลข CPI เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 5.3% จาก 12 เดือนก่อนหน้า โดยปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นคือการพุ่งขึ้นของราคาบ้านเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งรวมอยู่ในดัชนีราคาผู้บริโภคด้วย
ส่วนดัชนี CPI ทั่วไป เดือนพ.ค. ปรับตัวขึ้น 4.0% โดยลดลงจากระดับสูงสุดที่ 9.1% ในเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว
"อัตราเงินเฟ้อได้ลดลงอย่างมาก และน่าจะยังปรับลดลงอีก" นางเยลเลนคาดการณ์