คลื่นความร้อนทำให้อุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์ในพื้นที่ 17 แห่งของจีนเมื่อวันพฤหัสบดี (22 มิ.ย.) โดยจีนถือเป็นอีกประเทศที่เผชิญสภาพอากาศร้อนจัดในช่วงฤดูร้อน เช่นเดียวกับอินเดีย อังกฤษ และประเทศอื่น ๆ
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาจีนระบุว่า อุณหภูมิในกรุงปักกิ่งและนครเทียนจิน ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญทางภาคเหนือของประเทศจีน แตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 41.8 องศาเซลเซียส (107 องศาฟาเรนไฮต์) เมื่อวานนี้
ขณะเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาจีนระบุว่า สถานีอุตุนิยมวิทยาอื่น ๆ อีก 15 แห่งในมณฑลต่าง ๆ เช่น มณฑลเหอเป่ยและชานตงก็รายงานอุณหภูมิสูงระดับประวัติการณ์ในวันเดียวกัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สภาพอากาศร้อนจัดมีแนวโน้มจะดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ (23 มิ.ย.) ในพื้นที่ต่าง ๆ จำนวนมากทางภาคเหนือของจีน ซึ่งจะกระตุ้นอุปสงค์ไฟฟ้าและเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดไฟป่า
รายงานระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นและเกิดเหตุสภาพอากาศแปรปรวนสุดขั้วเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยปรากฏการณ์เอลนีโญมีแนวโน้มที่จะทำให้ภาวะคลื่นความร้อนทวีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น โดยเอลนีโญกลับมาอีกครั้งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562 ในปีนี้
แบบจำลองของบลูมเบิร์ก อิโคโนมิกส์ระบุว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญครั้งก่อนส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อโลก โดยทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ไม่ใช่พลังงานสูงขึ้น 3.9 จุดเปอร์เซ็นต์ และราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 3.5 จุดเปอร์เซ็นต์