สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในจีนอีก 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัล ไชน่า เรียลเอสเตต จำกัด และ บริษัท ลีดดิง โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป จำกัด ไม่สามารถชำระหนี้หุ้นกู้ที่ออกเป็นสกุลเงินดอลลาร์ได้ เนื่องจากยอดขายบ้านอ่อนตัวลงและขาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงรุก
เซ็นทรัล ไชน่า เรียลเอสเตต ระบุว่า ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ได้ภายในระยะเวลาผ่อนผันตามสัญญา และได้ตัดสินใจระงับการชำระหนี้ต่างประเทศทั้งหมด ส่วนทางลีดดิง โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป ได้เปิดเผยข้อมูลในการยื่นเอกสารต่อตลาดหลักทรัพย์ในคืนวันศุกร์ (23 มิ.ย.) ว่า บริษัทไม่ได้จ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยทั้งหมด 119.4 ล้านดอลลาร์ตามกำหนดของหุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์ที่ออกเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนแปลงหนี้ (debt swap)
ทั้งสองบริษัทยังระบุเพิ่มเติมว่า พวกเขาจะร่วมมือกับที่ปรึกษาภายนอก และจะหาทางแก้ปัญหาแบบองค์รวมสำหรับหนี้นอกประเทศของพวกเขา
อนึ่ง เซ็นทรัล ไชน่า เรียลเอสเตต เป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 33 ของจีนเมื่อพิจารณาจากยอดขายตามสัญญา ขณะที่บริษัท ลีดดิง โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป นั้น ไม่ติดใน 100 อันดับแรก
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของจีนหลายแห่งไม่ชำระดอกเบี้ยภายในช่วงระยะเวลาผ่อนผัน 30 วันหรือหลังจากนั้น ทางภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนเผชิญภาวะขาดแคลนเงินสดจนนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์มากเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้ว และแนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้ยังคงดำเนินต่อไปในปี 2566