ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้น 197 ดอลลาร์ หรือ +0.65% แตะที่ระดับ 30,368 ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ และนับตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย. ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นแล้วกว่า 12%
นักวิเคราะห์ในตลาดมองว่า การที่ราคาบิตคอยน์ยังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับ 30,000 ดอลลาร์ได้นั้น เป็นผลมาจากรายงานข่าวที่ว่า แบล็กร็อก (Blackrock) ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์รายใหญ่ของสหรัฐ ได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) เพื่อขอเสนอขาย Spot Bitcoin ETF และหลังจากนั้นก็มีบริษัทบริหารสินทรัพย์อีกหลายแห่งยื่นขอด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมถึงบริษัทวิสดอมทรี (WisdomTree) และแวลคิรี (Valkyrie)
วีเจย์ ไอย์ยาร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาดต่างประเทศของบริษัท CoinDCX ซึ่งเป็นบริษัทคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่สุดของอินเดียกล่าวว่า "การที่บริษัทหลายแห่งยื่นขอเปิด Spot Bitcoin ETF ช่วยหนุนราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นทะลุระดับ 30,000 ดอลลาร์ และเราเชื่อว่าราคาบิตคอยน์จะพุ่งขึ้นทดสอบระดับ 32,000 ดอลลาร์ และมีแนวโน้มที่จะไต่ขึ้นไปแตะระดับ 36,000 ดอลลาร์ ก่อนที่จะทะยานขึ้นไปจนถึงระดับ 45,000-48,000 ดอลลาร์"
นอกจากนี้ ปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาบิตคอยน์ยังได้แก่ ความลึกของตลาดคริปโทฯ (market depth) ซึ่งอยู่ที่ระดับต่ำมากในปีนี้ โดยข้อมูลจากบริษัท Kaiko ระบุว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2566 ความลึกของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีลดลงประมาณ 20% โดยบิตคอยน์เป็นหนึ่งในสกุลเงินคริปโทฯ ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในแง่ของความลึกของตลาด
ทั้งนี้ ความลึกของตลาดคือความสามารถของตลาดในการดูดซับคำสั่งซื้อและขายที่ค่อนข้างใหญ่ โดยหากความลึกของตลาดอยู่ในระดับต่ำและนักลงทุนรายใหญ่ส่งคำสั่งซื้อหรือขายสกุลเงินดิจิทัล ราคาก็อาจจะเคลื่อนไหวรุนแรงในฝั่งขาขึ้นหรือและขาลง