นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวในการประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัมซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเทียนจินในวันนี้ (27 มิ.ย.) ว่า เศรษฐกิจจีนในไตรมาส 2 มีแนวโน้มที่จะขยายตัวแข็งแกร่งกว่าในไตรมาส 1 และคาดว่าอาจจะขยายตัวตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ราว 5% เมื่อเทียบเป็นรายปี
นายหลี่กล่าวว่า การที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนชะลอตัวลงท่ามกลางอุปสงค์ที่อ่อนแอทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้รัฐบาลจีนวางแผนที่จะออกนโยบายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศและเปิดตลาดให้กว้างขึ้น เพื่อให้จีนยังคงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ นายหลี่กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจจะไม่ใช่วิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุขครั้งสุดท้ายที่โลกเผชิญ พร้อมกับกล่าวว่า แนวโน้มของโลกาภิวัตน์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะลดลงบ้างในระดับหนึ่ง โดยเขาย้ำว่าเป้าหมายหลักของเขานับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจีนนั้น ยังคงมุ่งไปที่การเปิดกว้างทางธุรกิจและการต้อนรับนักลงทุนต่างชาติ
นอกจากนี้ นายหลี่กล่าวว่า การสื่อสารและการแลกเปลี่ยนอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการเจรจาและการสื่อสาร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด
ธนาคารรายใหญ่หลายแห่งได้พากันปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปี 2566 หลังจากจีนเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาดในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ารัฐบาลจีนจำเป็นต้องเร่งออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวหลังยุคโควิด-19