China Beige Book International (CBBI) เปิดเผยรายงาน China Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจีนในวันนี้ (30 มิ.ย.) โดยระบุว่า มาตรการกระตุ้นทางการเงินที่จีนนำมาใช้ในปีที่แล้วนั้น แทบไม่สามารถกระตุ้นความต้องการเงินกู้ให้ฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ได้ แม้ว่าต้นทุนการกู้ยืมสำหรับภาคธุรกิจอยู่ต่ำกว่าปีที่แล้วก็ตาม
รายงานดังกล่าวระบุว่า การที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนส.ค.ปีที่แล้ว อาจมีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจแค่ในวงจำกัด และทำให้เกิดความไม่มั่นใจว่า การที่ PBOC ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งล่าสุดในช่วงกลางเดือนมิ.ย.ปีนี้ จะมีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่
"ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นักวิเคราะห์หลายคนได้ตั้งข้อสังเกตว่า PBOC มีทางเลือกไม่มากนักในการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกเสียจากว่าจะใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินครั้งใหญ่ โดย PBOC เริ่มดำเนินการบางอย่างในช่วงหลายเดือนที่แล้ว แต่ก็ไม่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งขึ้นได้" เลแลนด์ มิลเลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ China Beige Book กล่าว
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาดของจีนในเดือนเม.ย.และพ.ค.ที่ผ่านมานั้น ทำให้หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่ธนาคารรายใหญ่หลายแห่ง รวมถึงโกลด์แมน แซคส์, แบงก์ ออฟ อเมริกา และโนมูระ ต่างก็ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจจีนเมื่อไม่นานมานี้
รายงาน China Beige Book ยังระบุด้วยว่า ผลการสำรวจครั้งล่าสุดแสดงให้เห็นว่าการกู้ยืมทั่วประเทศจีนลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2553 และความต้องการเงินกู้ลดน้อยลงจากปีที่แล้ว
นอกจากนี้ แม้ว่ารัฐบาลจีนได้ผ่อนปรนเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วงหลายเดือนมานี้ แต่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยรายงานว่า ยอดขายและราคาอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลงทั้งเมื่อเทียบเป็นรายเดือนและรายปี
ทั้งนี้ รายงาน China Beige Book ได้จากการสำรวจความเห็นของประชาชนทั่วประเทศจีนจำนวน 4,604 รายใน 2 ช่วงเวลาด้วยกันคือในช่วงกลางเดือนเม.ย. และในช่วงกลางเดือนพ.ค.จนถึงกลางเดือนมิ.ย.ปีนี้ โดยรายงานดังกล่าวนำเสนอภาพรวมเศรษฐกิจของจีนในเบื้องต้น ก่อนที่รัฐบาลจีนจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนก.ค.