สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ธนาคารโลกเปิดเผยในวันนี้ (30 มิ.ย.) ว่า ธนาคารได้อนุมัติงบจำนวน 1.5 พันล้านดอลลาร์เพื่อเป็นเงินทุนให้แก่อินเดียในการเร่งการพัฒนาภาคพลังงานคาร์บอนต่ำ
ธนาคารโลกระบุในแถลงการณ์ว่า การอนุมัติงบในครั้งนี้จะช่วยให้อินเดียพัฒนาภาคพลังงานคาร์บอนต่ำ ด้วยการเพิ่มปริมาณพลังงานหมุนเวียน พัฒนาไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนด้านการเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Finance) สำหรับการลงทุนในพลังงานคาร์บอนต่ำ
นายออกุสต์ ทาโน คูอาเม ผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศอินเดียกล่าวว่า "โครงการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการดำเนินภารกิจไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (National Green Hydrogen Mission) ให้สำเร็จลุล่วง ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2573"
โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะขยายขนาดซัพพลายพลังงานหมุนเวียน ด้วยการลดค่าใช้จ่ายและปรับปรุงการบูรณาการระบบโครงข่ายไฟฟ้า พร้อมกับช่วยให้อินเดียบรรลุเป้าหมายความจุพลังงานหมุนเวียน 500 กิกะวัตต์ภายในปี 2573
ขณะเดียวกัน รัฐบาลอินเดียมีแผนจะเปิดประมูลพลังงานหมุนเวียนปริมาณ 50 กิกะวัตต์ในแต่ละปี นับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2566-2567 จนถึงปีงบประมาณ 2570-2571 ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการปล่อยคาร์บอน 40 ล้านตันต่อปีภายในปี 2569
นอกจากนี้ ธนาคารโลกระบุว่า แม้อัตราการบริโภคพลังงานต่อหัวของอินเดียคิดเป็นเพียง 1 ใน 3 ของค่าเฉลี่ยทั่วโลก แต่อุปสงค์พลังงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เมื่อเศรษฐกิจอินเดียขยายตัว
ด้วยเหตุนี้ จึงมีการเรียกร้องให้ยุติการใช้แหล่งพลังงานจากฟอสซิล ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของอินเดียในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2613