นายแบรด เซตเซอร์ อดีตที่ปรึกษาด้านการค้าของทำเนียบขาวและเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า จีนมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศสูงถึง 6 ล้านล้านดอลลาร์ โดยประมาณครึ่งหนึ่งหรือราว 3 ล้านล้านดอลลาร์ได้ถูกซุกซ่อนไว้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความเสี่ยงรูปแบบใหม่
นายเซตเซอร์ได้เปิดเผยรายงานดังกล่าวบนแพลตฟอร์มข่าวที่มีชื่อว่า "The China Project" โดยระบุว่า จีนมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศจำนวนมากที่ไม่ได้แสดงในรายงานอย่างเป็นทางการของธนาคารกลางจีน แต่ทุนสำรองเหล่านั้นซึ่งอาจเรียกว่า "ทุนสำรองเงา" (shadow reserves) กลับไปปรากฏอยู่ในรูปของสินทรัพย์ขององค์กรต่าง ๆ เช่น ธนาคารพาณิชย์ของรัฐ และธนาคารนโยบายซึ่งเป็นธนาคารภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล
"ในขณะที่ข้อมูลทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ทุนสำรองที่จีนซุกซ่อนไว้นั้นกลับเพิ่มขึ้น ตามยอดเกินดุลการค้าของจีน การที่จีนขาดความโปร่งใสนั้นเป็นปัญหาระดับโลก เพราะเมื่อพิจารณาในเชิงโครงสร้างแล้ว จีนถือเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจโลก ซึ่งทุกสิ่งที่จีนทำไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลัง ย่อมจะมีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลกในที่สุด" นายเซตเซอร์กล่าว
นายเซตเซอร์ยังระบุด้วยว่า ทุนสำรองของจีนมีอิทธิพลที่สำคัญ เช่น ใช้เป็นทุนในโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ซึ่งโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่จีนนำเงินทุนสำรองออกมากระจายการลงทุนในช่วงหลังเกิดวิกฤตการเงินโลก