ราคาบิตคอยน์ปรับตัวขึ้น 8% ในไตรมาส 2/2566 (เดือนเม.ย.-มิ.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น หากบริษัทแบล็กร็อก อิงค์ (BlackRock Inc.) ฟิเดลิตี อินเวสต์เมนต์ (Fidelity Investments) และบริษัทอื่น ๆ ประสบความสำเร็จในการขออนุญาตดำเนินการซื้อขาย Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐ
ในทางกลับกัน เหรียญคริปโทฯขนาดเล็กอื่น ๆ ต้องเผชิญแรงกดดันจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ที่มองว่า เหรียญคริปโทฯเหล่านี้เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน ซึ่งทำให้สินทรัพย์ดังกล่าวซื้อขายได้ยากขึ้น ขณะที่บิตคอยน์ไม่ต้องเผชิญกับปัญหาในลักษณะดังกล่าว เนื่องจากเจ้าหน้าที่สหรัฐมองว่า บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์โภคภัณฑ์
ดัชนีที่ประกอบด้วยเหรียญคริปโทฯอันดับที่ 51-100 ตามมูลค่าตลาดปรับตัวลดลง 26% ในไตรมาส 2/2566 ทำให้ส่วนต่างทางราคาระหว่างดัชนีดังกล่าวกับบิตคอยน์ขยายกว้างที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4/2563