แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ธนาคารรายใหญ่ 5 แห่งของรัฐบาลจีน ได้แก่ ธนาคารอินดัสเตรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชนา (ICBC) ธนาคารแห่งประเทศจีน (BOC) ธนาคารการเกษตรแห่งประเทศจีน (ABC) ธนาคารไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงก์ (CCB) และธนาคารแห่งการสื่อสาร (BOCOM) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 4.3% สู่ระดับ 2.8%
ด้านธนาคารกลางจีน (PBOC) ซึ่งปกติแล้วเป็นผู้ออกคำแนะนำเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสกุลดอลลาร์สหรัฐแก่ธนาคารต่าง ๆ ของรัฐบาล ไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว
บรรดานักลงทุนและนักวิเคราะห์กล่าวว่า ผู้กำหนดนโยบายของจีนมีความกังวลว่า เงินหยวนที่อ่อนค่าลงแบบต่อเนื่องอาจบั่นทอนการลงทุนจากต่างชาติและกระตุ้นให้เม็ดเงินจากกองทุนต่างชาติไหลออกนอกประเทศจีน ดังนั้น ผู้กำหนดนโยบายของจีนจึงต้องการปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศ แม้ปกติแล้วจะอิงตามอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศ โดยจีนได้ลดอัตราดอกเบี้ยในประเทศลง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว
รายงานระบุว่า เงินหยวนเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่อ่อนค่าลงมากที่สุดในเอเชียในปีนี้ โดยอ่อนค่าลงเกือบ 5% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยถูกกดดันจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงและส่วนต่างของผลตอบแทนที่กว้างขึ้น เมื่อเทียบกับสหรัฐ
นายเคน เจียง หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดการเงินเอเชียของธนาคารมิซูโฮ (Mizuho Bank) กล่าวว่า "การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปเพื่อจำกัดความได้เปรียบด้านอัตราดอกเบี้ยของเงินดอลลาร์สหรัฐในตลาดเงินในประเทศ"