นายเว่ย เจี้ยนกั๋ว อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานศูนย์วิจัยเศรษฐกิจระหว่างประเทศของจีน กล่าวในวันนี้ (5 ก.ค.) ว่า การควบคุมการส่งออกกัลเลียมและเจอร์เมเนียมเพิ่งเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ในขณะที่จีนยกระดับการต่อสู้ด้านเทคโนโลยีกับสหรัฐ ก่อนที่นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐจะเดินทางเยือนจีน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หุ้นของบริษัทโลหะของจีนบางแห่งพุ่งขึ้นในการซื้อขายช่วงที่สอง โดยนักลงทุนมั่นใจว่าราคาที่สูงขึ้นของกัลเลียมและเจอร์เมเนียม โลหะ 2 ชนิดซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งอยู่ในเป้าหมายการจำกัดการส่งออกของรัฐบาลนั้น จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบรรดาบริษัทโลหะ
เจอร์เมเนียมเป็นวัสดุที่ใช้ในการผลิตชิปคอมพิวเตอร์ความเร็วสูง พลาสติก และอุปกรณ์ด้านการทหาร เช่น อุปกรณ์สำหรับมองในที่มืดและเวลากลางคืน ตลอดจนเซนเซอร์ดาวเทียมถ่ายภาพ ในขณะที่กัลเลียมใช้ในการผลิตเรดาร์และอุปกรณ์สื่อสารทางวิทยุ ดาวเทียมและหลอดไฟแอลอีดี
การประกาศควบคุมการส่งออกของจีน จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. โดยรวมถึงการส่งออกผลิตภัณฑ์กัลเลียมและเจอร์เมเนียมบางชนิด รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและสายเคเบิลใยแก้วนำแสง โดยการประกาศควบคุมอย่างกะทันหันนี้ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องแก่งแย่งกักตุนซื้อกัลเลียมและเจอร์มาเนียม และทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น
นายเว่ย กล่าวกับหนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ ว่า หลาย ๆ ประเทศควรเตรียมตัวรับมือให้มากกว่านี้หากพวกเขาคิดจะกดดันจีนต่อไป พร้อมชี้ว่าการควบคุมดังกล่าวเป็น "การปล่อยหมัดเด็ดที่ผ่านการไตร่ตรองมาอย่างดี" และนี่เพิ่งเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น