มอร์แกน สแตนลีย์ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันในวันพุธ (5 ก.ค.) โดยคาดการณ์ว่าตลาดจะมีอุปทานน้ำมันมากกว่าอุปสงค์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เนื่องจากคาดว่าอุปทานน้ำมันจากนอกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะเพิ่มขึ้นแซงหน้าอุปสงค์น้ำมันในปีหน้า
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มอร์แกน สแตนลีย์ปรับลดแนวโน้มราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) สำหรับไตรมาส 3/2566 ลงเหลือ 75 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับ 77.50 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับลดคาดการณ์ราคาในไตรมาส 4/2566 ลงเหลือ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล จาก 75 ดอลลาร์/บาร์เรล
นอกจากนี้ มอร์แกน สแตนลีย์ยังปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันสำหรับปี 2567 ลง 5 ดอลลาร์ด้วย โดยคาดว่าราคาน้ำมันจะอยู่ที่ 70 ดอลลาร์ในไตรมาส 1/2567, 72.50 ดอลลาร์ในไตรมาส 2/2567 และ 75 ดอลลาร์และ 80 ดอลลาร์สำหรับไตรมาส 3/2567 และ 4/2567 ตามลำดับ
มอร์แกน สแตนลีย์ระบุว่า "แม้มีการลงทุนต่ำ แต่อุปทานนอกกลุ่มโอเปกพลัสนั้นขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และอุปทานจากอิหร่านและเวเนซุเอลาเพิ่มสูงขึ้นด้วย เรายังคาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันจะลดลงในช่วงไตรมาส 3 แต่ก็คาดว่าราคาน้ำมันจะยังลดลงต่อไป เนื่องจากตลาดเปลี่ยนจุดสนใจไปที่ช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ซึ่งจะมีอุปทานน้ำมันมากกว่าอุปสงค์
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ที่ระดับราว 75.79 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากซาอุดีอาระเบียและรัสเซียประกาศลดการผลิตครั้งใหม่ นอกเหนือจากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัสและพันธมิตรที่นำโดยรัสเซีย