ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดในวันพฤหัสบดี (6 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเป็นวงกว้าง หลังจากข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้น และทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก
-- นักลงทุนเทน้ำหนักมากกว่า 90% ในการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หลังภาคเอกชนสหรัฐมีการจ้างงานที่แข็งแกร่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 96.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 3.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%
-- สำนักงานด้านการตลาดและการแข่งขันของอังกฤษ (CMA) แถลงในวันพฤหัสบดี (6 ก.ค.) ว่า CMA พบว่า สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ และ JD Sports ซึ่งเป็นผู้นำในการจำหน่ายรองเท้าผ้าใบและสินค้าแบรนด์ดังระดับโลก ได้สมรู้ร่วมคิดในการสกัดการแข่งขันในตลาด จนทำให้แฟนบอลต้องซื้อสินค้าในราคาแพงกว่าที่ควรจะเป็น
ทั้งนี้ CMA สั่งปรับเลสเตอร์เป็นจำนวนเงิน 880,000 ปอนด์ (1.12 ล้านดอลลาร์) หรือราว 40 ล้านบาท
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (6 ก.ค.) ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 497,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 220,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 267,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกือบ 500,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ถือเป็นการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.ค.2565
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 12,000 ราย สู่ระดับ 248,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 245,000 ราย ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 3,500 ราย สู่ระดับ 253,250 ราย
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.9 ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 51.0 จากระดับ 50.3 ในเดือนพ.ค.
ดัชนีอยู่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้การขยายตัวในภาคบริการของสหรัฐ โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน
เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 54.4 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 54.9 ในเดือนพ.ค.
อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้การขยายตัวในภาคบริการของสหรัฐ
สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ประจำเดือนพ.ค. พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 496,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 9.824 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.935 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 10.320 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ตัวเลขการปลดออกจากงานอยู่ที่ระดับ 1.6 ล้านตำแหน่ง และตัวเลขการลาออกจากงานโดยสมัครใจเพิ่มขึ้น 250,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 4 ล้านตำแหน่ง ขณะที่อัตราการลาออกเพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 2.6% ทั้งนี้ ตัวเลข JOLTS นับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าภาคสินค้าและบริการของสหรัฐลดลง 7.3% สู่ระดับ 6.90 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. จากระดับ 7.44 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ สหรัฐจะรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย. เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 225,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. หลังจากที่พุ่งขึ้น 339,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะปรับตัวลงสู่ระดับ 3.6% ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 3.7% ในเดือนพ.ค.