ราคาบิตคอยน์ร่วงลงกว่า 100 ดอลลาร์ในช่วงเช้านี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องจากช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้นักลงทุนลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์
ณ เวลา 08.13 น. ราคาบิตคอยน์ร่วงลง 140 ดอลลาร์ หรือ -0.47% แตะที่ระดับ 30,062 ดอลลาร์
แมท มาลีย์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Miller Tabak กล่าวว่า กระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ส่งผลกระทบราคาสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์ เนื่องจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นด้วย โดยขณะนี้นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนนี้ หลังมีการเปิดเผยข้อมูลแรงงาน
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 497,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 220,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 267,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
ส่วนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 ก.ค.) กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ตำแหน่ง และชะลอตัวจากระดับ 306,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. แต่ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4.4% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.2%
ปีเตอร์ เชอร์ นักวิเคราะห์จาก Academy Securities คาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาดเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากตัวเลขค่าจ้างในรายงานดังกล่าวยังคงบ่งชี้เงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้น
ก่อนหน้านี้ ราคาบิตคอยน์ได้รับปัจจัยหนุนอย่างแข็งแกร่ง จากรายงานข่าวที่ว่า แบล็กร็อก (Blackrock) ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์รายใหญ่ของสหรัฐ ได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) เพื่อขอเสนอขาย Spot Bitcoin ETF และหลังจากนั้นก็มีบริษัทบริหารสินทรัพย์อีกหลายแห่งยื่นขอด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมถึงบริษัทวิสดอมทรี (WisdomTree) และแวลคิรี (Valkyrie)