นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันพุธที่ 12 ก.ค.กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมิ.ย. และจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนมิ.ย.ในวันพฤหัสบดีที่ 13 ก.ค.
เจมส์ เรแกน นักวิเคราะห์จากบริษัท D.A. Davidson นักลงทุนจับตาข้อมูล CPI และ PPI ของสหรัฐในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐ และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อไปแล้วบางรายการ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)
-- ราคาบิตคอยน์ร่วงลงกว่า 100 ดอลลาร์ในช่วงเช้านี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องจากช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้นักลงทุนลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์
ณ เวลา 08.13 น. ราคาบิตคอยน์ร่วงลง 140 ดอลลาร์ หรือ -0.47% แตะที่ระดับ 30,062 ดอลลาร์
แมท มาลีย์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Miller Tabak กล่าวว่า กระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ส่งผลกระทบราคาสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์ เนื่องจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นด้วย โดยขณะนี้นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนนี้ หลังมีการเปิดเผยข้อมูลแรงงาน
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ทรงตัวในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งอ่อนแอกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค.
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ร่วงลง 5.4% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 5% หลังจากที่ปรับตัวลง 4.6% ในเดือนพ.ค.
-- คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ประกาศลดค่าธรรมเนียมการจัดการ (management fees) และค่าธรรมเนียมการรับฝากสินทรัพย์ (custodian fee) ของกองทุนรวมหุ้น (stock mutual fund) ลงสู่ระดับ 1.2% และ 0.2% ตามลำดับ
หนังสือพิมพ์ไชน่า ซิเคียวริตีส์ เจอร์นัลรายงานว่า มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการซื้อขายในตลาดหุ้นจีน หลังจากการระดมเงินทุนใหม่ ๆ ในตลาดหุ้นจีนชะลอตัวลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นจีนร่วงลงอย่างมาก นอกจากนี้ การที่เศรษฐกิจจีนอ่อนแอลงยังส่งผลให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น จากเดิมที่นักลงทุนมีความวิตกกังวลอยู่แล้วจากภาวะต้นทุนที่สูงขึ้นและผลตอบแทนในตลาดหุ้นที่อ่อนแอลง
-- หนังสือพิมพ์เดอะ วอชิงตัน โพสต์ เผยแพร่บทความว่า ทวิตเตอร์ได้เสียตำแหน่งแพลตฟอร์มแชร์ข่าวสารและความบินเทิงให้ติ๊กต๊อกไปแล้ว อันเป็นผลจากการที่อีลอน มัสก์ เจ้าของทวิตเตอร์ ได้ตัดสินใจผิดพลาดหลายอย่าง จนทำให้ทวิตเตอร์เสียผู้ใช้งานไป ไม่นับรวมกรณีที่เมตาเปิดตัวแอปพลิเคชันที่มีฟังก์ชันการใช้งานคล้ายกับทวิตเตอร์มาแข่งอีกด้วย
รายงานข่าวระบุว่า ผู้ใช้งานทวิตเตอร์บางส่วนได้เลือกเผยแพร่ข่าวสารผ่านทางติ๊กต๊อกแทน เพราะโพสต์บนติ๊กต๊อกแล้วมีผู้เห็นมากกว่า แม้จะต้องเสียเวลาทำคอนเทนต์มากกว่า ไม่เหมือนกับทวิตเตอร์ที่แค่พิมพ์ข้อความสั้น ๆ ก็ใช้ได้
-- เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า การประชุมทวิภาคีรวม 10 ชั่วโมงกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนในช่วงไม่กี่วันมานี้เป็นไปอย่างตรงไปตรงมาและสร้างสรรค์ แม้ทั้งสองฝ่ายยังคง "มีข้อขัดแย้งกันอยู่บ้าง" แต่เชื่อว่าจะหาทางตกลงกันได้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่นางเยลเลนมีแผนการเยือนกรุงปักกิ่งของจีนเป็นเวลา 4 วัน และจะเดินทางออกจากกรุงปักกิ่งวันนี้
นางเยลเลน กล่าวว่า ตนและนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ "ไม่ได้มองความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนว่าเป็นเรื่องของความขัดแย้งทางอำนาจ โดยเราเชื่อว่าโลกนี้กว้างใหญ่พอที่ทั้งสองประเทศจะเจริญรุ่งเรืองได้"
-- ปีเตอร์ เชอร์ นักวิเคราะห์จาก Academy Securities คาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาดเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากตัวเลขค่าจ้างในเดือนมิ.ย.ยังคงบ่งชี้เงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้น
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ตำแหน่ง และชะลอตัวจากระดับ 306,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ขณะเดียวกันอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.6% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ส่วนตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4.4% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.2%