บริษัทฟาสต์ รีเทลลิ่ง โค ซึ่งเป็นผู้บริหารร้านเสื้อผ้าแบรนด์ "ยูนิโคล่" ของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (13 ก.ค.) ว่า ผลกำไรของบริษัทในรอบ 9 เดือนเพิ่มขึ้น 22% เนื่องจากธุรกิจในจีนยังคงฟื้นตัวจากผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และบริษัทได้ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรตลอดทั้งปีสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.306 แสนล้านเยน (2.38 พันล้านดอลลาร์) ในรอบ 9 เดือนซึ่งสิ้นสุดลงในวันที่ 31 พ.ค. จาก 2.711 แสนล้านเยนในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่บริษัทได้ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรทั้งปีขึ้นเป็น 3.70 แสนล้านเยนจาก 3.60 แสนล้านเยน
ส่วนนักวิเคราะห์ 14 รายในโพลสำรวจของรีฟินิทิฟ (Refinitiv) คาดการณ์ว่า ผลกำไรจากการดำเนินงานประจำปีของบริษัทจะอยู่ที่ 3.63 แสนล้านเยน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ฟาสต์ รีเทลลิ่งมีร้านยูนิโคล่ 925 สาขาในจีน ซึ่งมากกว่าในญี่ปุ่น และทำให้จีนกลายเป็นตลาดค้าปลีกที่สำคัญซึ่งได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดที่เข้มงวดเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ฟาสต์ รีเทลลิ่งระบุเมื่อเดือนเม.ย.ว่า ธุรกิจในจีนเริ่มฟื้นตัวอีกครั้งในเดือนม.ค. ส่งผลให้ยอดขายและกำไรจากภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นอย่างมากในไตรมาสที่ 2 ของปีงบการเงิน 2566
ขณะเดียวกัน หุ้นของฟาสต์ รีเทลลิ่ง ปรับตัวขึ้น 32% แล้วในปีนี้ ส่งผลให้นายทาดาชิ ยานาอิ ผู้ก่อตั้งครองตำแหน่งบุคคลร่ำรวยที่สุดของญี่ปุ่น