นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา (Tesla) กล่าวเมื่อวันพุธ (19 ก.ค.) ว่า ได้ตั้งเป้าหมายใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) รวมถึงซอฟท์แวร์สำหรับการขับเคลื่อนอัตโนมัติ และการใช้หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ หรือหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ในโรงงาน แม้ว่าเขายอมรับว่าก่อนหน้านี้เขาเคยมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป พร้อมเสริมว่า เทสลากำลังเจรจาในเบื้องต้นกับผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ เพื่อออกใบอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (FSD) ของเทสลา
นายมัสก์กล่าวว่า มูลค่ารถยนต์ของเทสลาอาจเพิ่มขึ้น หลังจากมี "การเปลี่ยนแปลงขั้นตอนเดียวครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์" เมื่อหน่วยงานกำกับดูแลด้านกฎระเบียบทำการอนุมัติรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ
นอกจากนี้แล้ว หุ่นยนต์ของเทสลาในช่วงนำร่อง อาจกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญได้ โดยหุ่นยนต์เหล่านี้อาจเข้ามาช่วยการผลิตในโรงงานของเทสลาได้เร็วที่สุดภายในปีหน้า แม้ว่าในปัจจุบันเพิ่งสร้างหุ่นยนต์ไปเพียง 10 ตัวเท่านั้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และการแข่งขันจากบรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหม่ ๆ ทำให้เทสลาต้องลดราคารถยนต์ไฟฟ้าลงเพื่อให้ได้ส่วนแบ่งในตลาด ซึ่งทำให้ผลกำไรลดลง
แต่นายมัสก์กล่าวว่า เทสลาจะยังคงผลักดันเพื่อเพิ่มยอดขายรถยนต์ แม้จะทำให้ผลกำไรต่อคันลดลงก็ตาม โดยเขาเชื่อว่ามูลค่าในระยะยาวของเทคโนโลยี FSD จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนทำให้ข้อมูลการเงินในปัจจุบันดูเหมือนไม่มีความสำคัญ หรือสำคัญน้อยลง
ทั้งนี้ การดำเนินการของเทสลาเพื่อให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตในเทคโนโลยีดังกล่าวนั้นมีขึ้น หลังจากระยะเวลาหลายปีแห่งความล้มเหลวของบรรดาผู้ผลิตรถยนต์รายต่าง ๆ ที่ให้คำมั่นว่าจะสร้างซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้รถยนต์สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง