สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับปี 2566 แต่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามุมมองของญี่ปุ่นเกี่ยวกับภาวะเงินฝืดกำลังเปลี่ยนไป
รายงานระบุว่า การปรับลดคาดการณ์มีขึ้นก่อนการประชุมนโยบายของ BOJ ในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิด โดยผู้กำหนดนโยบายจะทำการคาดการณ์รายไตรมาส และอภิปรายว่าเศรษฐกิจมีความคืบหน้ามากน้อยเพียงใดในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน
นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวในระดับปานกลาง โดยมีสัญญาณเชิงบวก เช่น การขึ้นค่าแรงที่สม่ำเสมอ และบริษัทจดทะเบียนมีการใช้จ่ายที่แข็งแกร่ง
"สิ่งสำคัญคือต้องทำให้มั่นใจได้ว่าญี่ปุ่นมีความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อออกจากภาวะเงินฝืด และเปลี่ยนไปสู่สังคมที่การปรับขึ้นค่าแรงเป็นเรื่องปกติ" นายคิชิดะ กล่าวในที่ประชุมสภาเศรษฐกิจในวันนี้ (20 ก.ค.)
ในการทบทวนการคาดการณ์ในช่วงกลางปี รัฐบาลคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 1.3% ในปีงบประมาณปัจจุบัน ซึ่งสิ้นสุด ณ เดือนมี.ค. 2567 ลดลงจาก 1.5% ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนม.ค. เนื่องจากภาคการส่งออกได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ทั่วโลกที่ชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลคาดว่าการบริโภคจะแข็งแกร่ง และการใช้จ่ายด้านทุนจะหนุนการเติบโต ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 1.2% ในปีงบประมาณ 2567
นอกจากนี้ รัฐบาลระบุอีกว่า ราคาผู้บริโภคโดยรวม ซึ่งยังไม่ได้ตัดรายการใด ๆ ออกไป มีแนวโน้มว่าจะแตะที่ระดับ 2.6% ในปีงบประมาณนี้ ซึ่งสูงกว่าระดับ 1.7% ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนม.ค. และสูงกว่าระดับ 2% ซึ่งเป็นระดับเป้าหมายของ BOJ
ทั้งนี้ รัฐบาลคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะแตะที่ระดับ 1.9% ในปีงบประมาณ 2567