ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 9 ในวันพฤหัสบดี ทำสถิติขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดในรอบ 6 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 2560 อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงกว่า 2% เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการของบริษัทเทสลา และเน็ตฟลิกซ์
ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกอย่างต่อเนื่อง ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน โดยล่าสุดบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 2.80 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.62 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 2.553 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.462 หมื่นล้านดอลลาร์
สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 5.03 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.03 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 1.418 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.391 หมื่นล้านดอลลาร์
-- ธนาคารกลางตุรกีประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2.50% สู่ระดับ 17.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 5.00% สู่ระดับ 20.00%
-- รัฐบาลอินเดียประกาศห้ามการส่งออกข้าวทุกสายพันธุ์ ยกเว้นข้าวพันธุ์บาสมาติ โดยมีผลบังคับใช้ในทันที
คำสั่งดังกล่าวมีขึ้น หลังอินเดียเผชิญฤดูมรสุมที่ล่าช้าออกไป ซึ่งสร้างความวิตกว่าจะทำให้ผลผลิตข้าวลดลงในปีนี้
-- บริษัทเทสลา อิงค์เปิดตัวรถยนต์รุ่น Model Y ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมีกำหนดส่งมอบรถยนต์ในปี 2567
ทั้งนี้ เทสลาตั้งราคารถยนต์รุ่น Model Y ในตลาดมาเลเซียต่ำที่สุดในภูมิภาค โดยเริ่มต้นที่ 199,000 ริงกิต หรือราว 1,490,000 บาท ซึ่งถูกกว่าราคาที่ตั้งไว้สำหรับตลาดในไทยและสิงคโปร์
ข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์เทสลาระบุว่า รถยนต์รุ่น Model Y ที่จำหน่ายในประเทศไทยมีราคาอยู่ที่ 1,959,000 บาท ส่วนรุ่น Model Y Long Range มีราคาอยู่ที่ 2,259,000 บาท และ Model Y Performance มีราคาอยู่ที่ 2,509,000 บาท
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยเมื่อคืนวานนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 9,000 ราย สู่ระดับ 228,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 242,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 9,250 ราย สู่ระดับ 237,500 ราย
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลง 3.3% สู่ระดับ 4.16 ล้านยูนิตในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน
เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านดิ่งลง 18.9% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดสำหรับยอดขายในเดือนมิ.ย.นับตั้งแต่ปี 2552
การชะลอตัวของยอดขายบ้านมือสองได้รับผลกระทบจากสต็อกบ้านในตลาดที่อยู่ในระดับต่ำ
Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ร่วงลง 0.7% สู่ระดับ 106.1 ในเดือนมิ.ย. หลังจากลดลง 0.6% ในเดือนพ.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี LEI ปรับตัวลงเพียง 0.6% ในเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ ดัชนี LEI ถือเป็นสิ่งบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ โดยคำนวณจากตัวเลขเศรษฐกิจ 10 รายการ ซึ่งรวมถึงราคาหุ้น คำสั่งซื้อใหม่ของภาคการผลิต การอนุญาตสร้างบ้าน ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และความเชื่อมั่นผู้บริโภค
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย., ญี่ปุ่นเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. และอังกฤษเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จากสถาบัน GfK และยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.