สำนักข่าวนิกเกอิทำการวิเคราะห์ข้อมูลพิธีการศุลกากรรัสเซียที่รวบรวมโดยเอ็กซ์ปอร์ต จีเนียส (Export Genius) บริษัทวิจัยอินเดีย พบว่า ในช่วงหนึ่งปีนับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนนั้นมีการขนส่งชิปเซมิคอนดักเตอร์สหรัฐจำนวน 400,000 ชิ้น มูลค่ารวม 53.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปยังรัสเซียผ่านมัลดีฟส์ เพื่อเป็นการหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรที่ชาติตะวันตกประกาศใช้ต่อรัสเซีย
ข้อมูลจากการวิเคราะห์พบว่า การขนส่งลักษณะดังกล่าวคิดเป็นมูลค่ากว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อครั้ง โดยมัลดีฟส์เป็นรองเพียงจีน ซึ่งนับรวมฮ่องกง ในแง่ของการนำเข้าลักษณะดังกล่าวในช่วงหนึ่งปีนับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครน ในขณะที่เมื่อตรวจสอบข้อมูลในช่วงก่อนที่รัสเซียจะรุกรานยูเครนพบว่า ไม่มีการขนส่งชิปเซมิคอนดักเตอร์จากมัลดีฟส์ไปยังรัสเซียแต่อย่างใด
ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า การส่งออกสินค้าทั้งหมดของมัลดีฟส์ในปี 2564 ซึ่งไม่นับรวมภาคบริการ อยู่ที่ประมาณ 280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมูลค่าการส่งออกชิปเซมิคอนดักเตอร์สหรัฐจากมัลดีฟส์ไปยังรัสเซียคิดเป็นสัดส่วน 20%
การส่งออกชิปเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในเดือนพ.ค. 2565 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่แอโรฟลอต สายการบินยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย กลับมาเปิดเที่ยวบินเส้นทางระหว่างกรุงมาเลเมืองหลวงของมัลดีฟส์และกรุงมอสโกเมืองหลวงของรัสเซีย หลังเที่ยวบินเส้นทางดังกล่าวถูกระงับจากกรณีที่รัสเซียรุกรานยูเครนในเดือนก.พ.
นายอากิระ มินามิคาวะ ผู้อำนวยการที่ปรึกษาอาวุโสบริษัทออมเดีย ระบุว่า ยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้นแบบฉับพลันดังกล่าวมีขึ้นแม้มัลดีฟส์ไม่มีตลาดชิปเซมิคอนดักเตอร์
ข้อมูลพิธีการศุลกากรระบุว่า มีบริษัท 14 แห่งที่ส่งออกชิปเซมิคอนดักเตอร์จากมัลดีฟส์ไปยังรัสเซีย แต่ไม่มีบริษัทใดเลยที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในมัลดีฟส์