สำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) เปิดเผยในวันนี้ (21 ก.ค.) ว่า จะใช้มาตรการเชิงนโยบายอย่างครอบคลุมเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับการคาดการณ์ของตลาดในช่วงเวลาที่สกุลเงินหยวนเผชิญกับความเสี่ยงขาลงอีกครั้ง
สกุลเงินหยวนของจีนอ่อนค่าลงประมาณ 4% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทำให้กลายเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่อ่อนค่ามากที่สุดในเอเชีย โดยได้รับแรงกดดันจากส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนที่ขยายกว้างมากขึ้นเมื่อเทียบกับสหรัฐ บวกกับสัญญาณที่บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจกำลังสะดุด
SAFE ได้จัดการกับปัญหาเงินหยวนที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยการเพิ่มความพยายามในการปกป้องค่าเงิน ผ่านการผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อให้บริษัทต่าง ๆ สามารถกู้ยืมเงินจากต่างประเทศได้มากขึ้น และปรับค่ากลางสกุลเงินหยวนรายวันควบคู่ไปกับการซื้อเงินหยวนของธนาคารพาณิชย์ของรัฐบาล
นางหวัง ชุนอิง โฆษก SAFE กล่าวว่า ในอนาคตอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนจะมีเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพพื้นฐานในระดับที่สมเหตุสมผลและสมดุล
"เครื่องมือต่าง ๆ มีไว้ให้ใช้งาน เราจะปฏิบัติตามนโยบายที่ครอบคลุม มุ่งเน้นไปที่การรักษาเสถียรภาพด้านการคาดการณ์ตลาด และการใช้มาตรการที่แตกต่างกันตามสภาพความเป็นจริง เพื่อให้ตลาดมีสภาพแวดล้อมและมีความคาดการณ์ที่มั่นคง" นางหวัง กล่าว
นางหวังเผยว่า ภาวะตื่นตระหนกจากต่างประเทศในอดีตได้ทำให้ SAFE มีประสบการณ์ เครื่องมือ และมาตรการในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว
นางหวังย้ำอีกว่า SAFE จะป้องกันไม่ให้อัตราแลกเปลี่ยนเกิดความผันผวนอย่างรุนแรง และมั่นใจว่าทางหน่วยงานมีพื้นฐาน ความสามารถ และความมั่นใจในการรักษาการดำเนินการของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศให้มีเสถียรภาพ