บริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ ได้ขอให้บรรดาซัพพลายเออร์ทำการผลิต iPhone 15 จำนวน 85 ล้านเครื่องในปีนี้ ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายการผลิตในปีที่แล้ว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า แอปเปิ้ลต้องการรักษาเป้าหมายการจัดส่ง iPhone แม้เศรษฐกิจชะลอตัวลงและตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลกอ่อนแรงลงก็ตาม โดยคาดว่าเป้าหมายดังกล่าวจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับแอปเปิ้ล เนื่องจากทางบริษัทกำลังพิจารณาปรับขึ้นราคา iPhone รุ่นโปร
ในฐานะบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก รายได้ของแอปเปิ้ลจึงมีผลต่อเศรษฐกิจโลก, ซัพพลายเออร์ และการจ้างงานในประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐ, จีน และอินเดีย ส่วนราคาหุ้นของแอปเปิ้ลพุ่งขึ้นเกือบ 50% ในปีนี้ ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทพุ่งขึ้นแตะระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ แผนการผลิตของแอปเปิ้ลยังถูกจับตาอย่างใกล้ชิดในฐานะบริษัทที่มีผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยบริษัทผลิตชิปรายใหญ่อย่างซัมซุง อิเลคโทรนิคส์, ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริง (TSMC) และฟ็อกซ์คอนน์ เทคโนโลยี ต่างก็ต้องพึ่งพาการผลิต iPhone ในการผลักดันการเติบโตและผลกำไร
เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา แอปเปิ้ลเปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 2 ของปีงบการเงิน 2566 โดยได้แรงหนุนจากยอดขายผลิตภัณฑ์ iPhone ที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ แอปเปิ้ลมีกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 อยู่ที่ 1.52 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.43 ดอลลาร์ ส่วนรายได้จาก iPhone เพิ่มขึ้น 2% สู่ระดับ 5.133 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.884 หมื่นล้านดอลลาร์
นายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอปเปิ้ลเปิดเผยว่า ความแข็งแกร่งของยอดขาย iPhone เป็นปัจจัยหนุนกำไรและรายได้ของแอปเปิ้ลให้ออกมาดีเกินคาดในไตรมาส 2 เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนและวิกฤตห่วงโซ่อุปทานที่บรรเทาลงนั้น ช่วยให้บริษัทสามารถผลิต iPhone ได้ทันตามคำสั่งซื้อของลูกค้า หลังจากเมื่อปีที่แล้ว ปัญหาเหล่านี้ส่งผลให้บริษัทต้องปิดโรงงานผลิต iPhone บางแห่ง
แอปเปิ้ลไม่ได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการมานับตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19