ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ที่สุดของโลกคาดการณ์ในวันนี้ (27 ก.ค.) ว่า อุปสงค์ชิปทั่วโลกจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากอุปทานล้นตลาดทำให้ธุรกิจหลักของบริษัทประสบภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 2/2566 แม้ดำเนินการปรับลดการผลิตลงแล้วก็ตาม
ซัมซุงระบุในแถลงการณ์ว่า "ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าตลาดชิปจะเริ่มมีเสถียรภาพ เนื่องจากมีการปรับลดการผลิตมากขึ้นในอุตสาหกรรม"
ซัมซุงเสริมว่า ลูกค้าชิปจะเปลี่ยนจากการใช้สินค้าคงคลัง และหันมาซื้อเซมิคอนดักเตอร์อีกครั้ง โดยถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น 1 วันหลังจากเอสเค ไฮนิกซ์ (SK Hynix) บริษัทคู่แข่งระบุว่า ตลาดกำลังฟื้นตัวท่ามกลางอุปสงค์ที่แข็งแกร่งสำหรับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ขณะเดียวกัน ซัมซุงรายงานกำไรไตรมาส 2/2566 ลดลง 95% เนื่องจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรมชิป แม้ปรับลดการผลิตลงเนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลงสำหรับผลิตภัณฑ์ที่พึ่งพาเซมิคอนดักเตอร์ตั้งแต่อุปกรณ์สำหรับผู้บริโภคไปจนถึงเซิร์ฟเวอร์
ส่วนอัตรากำไรจากการดำเนินงานลดลงแตะ 6.69 แสนล้านวอน (527 ล้านดอลลาร์) ในไตรมาส 2/2566 จาก 14.1 ล้านล้านวอนในปีก่อนหน้า
ผลกำไรดังกล่าวสอดคล้องกับที่บริษัทคาดการณ์ไว้ที่ 6 แสนล้านวอนในเดือนนี้ และนับว่าเป็นผลกำไรรายไตรมาสต่ำที่สุดเป็นอันดับ 2 ในรอบ 14 ปี
ทั้งนี้ รายได้ของซัมซุงลดลง 22% แตะระดับ 60 ล้านล้านวอน