นายจิมมี โคห์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายการติดต่อสื่อสารเชิงกลยุทธ์ของกลุ่มและแบรนด์จากธนาคารยูโอบี (UOB) ระบุว่า ภูมิภาคอาเซียนมีแนวโน้มที่จะมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกภายในปี 2573
ทั้งนี้ นายโคห์กล่าวว่า ไม่มีภูมิภาคอื่นใดในโลกที่จะเสนอศักยภาพให้กับธุรกิจได้มากเท่ากับอาเซียนอีกแล้ว ด้วยพลวัตและความหลากหลายทางเศรษฐกิจ รวมถึงประชากรจำนวนมากที่เกือบ 690 ล้านคน อาเซียนมีส่วนในการขับเคลื่อนการเติบโตในทุกภาคส่วนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยไม่คำนึงถึงขนาด
ยูโอบีคาดการณ์ว่าอาเซียนจะบรรลุเป้าหมายการเติบโตของ GDP ที่แท้จริงที่กว่า 4.8% ในปี 2567 ขณะที่มีเพียงไม่กี่เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างสูงในช่วงหลายปีข้างหน้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ในการก้าวสู่การเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 4 ของโลกภายในปี 2573
ปัจจุบันอาเซียนได้พยายามเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ รวมถึงการใช้ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระดับภูมิภาค ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเป็นเอกภาพทางการเงินในกลุ่มผู้เข้าร่วม ทำให้อาเซียนเข้าใกล้เป้าหมายการสร้างความเป็นปึกแผ่นทางเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น
ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนในอาเซียนถือเป็นปัจจัยสำคัญในการลดการพึ่งพาสกุลเงินอื่น ๆ นอกอาเซียนในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน เช่น ดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ โดยดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้สกุลเงินต่าง ๆ ของอาเซียนอ่อนค่าลง ซึ่งกระทบต่อเศรษฐกิจในอาเซียน เนื่องจากประเทศสมาชิกอาเซียนส่วนใหญ่เป็นผู้นำเข้าพลังงานและอาหารสุทธิ