ธนาคารเอเอ็นแซด (ANZ) กล่าวว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก แต่อินเดียอาจช่วยชดเชยได้ โดยคาดว่าอุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ของอินเดียมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น และอาจช่วยชดเชยอุปสงค์ที่อ่อนแรงลงของจีนได้มากกว่าครึ่งหนึ่ง โดยเฉพาะในด้านพลังงาน
ANZ คาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดียมีแนวโน้มจะแซงหน้าจีน โดยจะกลายเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ภายในสิ้นทศวรรษนี้
"อุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ของอินเดียคาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยเชิงบวก เช่น จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น จำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองมีมากขึ้น การขยายตัวของการผลิตและการส่งออก และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน" นักวิเคราะห์ของ ANZ กล่าว
ข้อมูลจาก ANZ เผยว่า อินเดียจะแซงหน้าจีนจนกลายเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก โดยอัตราการขยายตัวของเมืองคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 40% ภายในปี 2573 จากระดับ 35% ในปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นอุปสงค์โลหะสำหรับอุตสากรรมและสินค้าโภคภัณฑ์ในหมวดพลังงาน ซึ่งสอดคล้องกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับโครงสร้างพื้นฐานและการผลิต
ANZ คาดการณ์ว่าอุปสงค์รายปีของของอินเดียในสินค้าโภคภัณฑ์หลัก ๆ เช่น น้ำมัน ถ่านหิน ก๊าซ ทองแดง อลูมิเนียม และเหล็ก จะเพิ่มขึ้นรวมกันมากกว่า 5% โดยนับตั้งแต่ขณะนี้จนถึงปี 2573
อุปสงค์น้ำมันและถ่านหินในอินเดียคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากที่สุด สอดคล้องกับการที่อินเดียพึ่งพาการน้ำเข้าน้ำมันเป็นหลัก โดยมากกว่า 80% ของอุปสงค์น้ำมันทั้งหมด มาจากน้ำมันที่นำเข้า
ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว อุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ของจีนจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 1% - 3% และคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของจีนจะชะลอตัวสู่ระดับ 3.5% ภายในสิ้นทศวรรษนี้ โดย GDP ของจีนในไตรมาส 2/2566 ขยายตัว 6.3% เมื่อเทียบเป้นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเติบโตที่ระดับ 7.3%