สหรัฐได้ยื่นข้อเสนอซื้อน้ำมันดิบชนิดกรด (sour crude) เข้าสู่ SPR เมื่อวันที่ 7 ก.ค. หลังจากที่รัฐบาลระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองมากเป็นประวัติการณ์ ที่ 180 ล้านบาร์เรลในปีที่แล้ว เพื่อควบคุมราคาน้ำมัน หลังจากที่รัสเซียรุกรานยูเครน ซึ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานสหรัฐได้ซื้อน้ำมันสำรองคืนกลับมา 6.3 ล้านบาร์เรล
"ความเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่ใช่การปฏิเสธข้อเสนอของบริษัทน้ำมันในการขายน้ำมันให้กับ SPR แต่เป็นการตัดสินใจโดยคำนึงถึงภาวะตลาด" โฆษกกระทรวงพลังงานสหรัฐกล่าว แม้ไม่ได้อธิบายความหมายของถ้อยแถลงดังกล่าว แต่อุปทานน้ำมันที่ตึงตัว ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงกว่า 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันมีแนวโน้มที่จะพุ่งสูงขึ้นอีกในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังจากที่ซาอุดีอาระเบียกล่าวว่าจะลดกำลังการผลิตลง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เริ่มตั้งแต่เดือนก.ค. นอกเหนือจากการลดกำลังการผลิตอื่น ๆ ที่ 8 ประเทศสมาชิกโอเปกพลัสประกาศในเดือนเม.ย.
แหล่งข่าวเผยว่า สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน ประมาณการว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงประมาณ 15.4 บาร์เรล ในสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 28 ก.ค.
ฝ่ายคณะทำงานของประธานาธิบดีไบเดน กล่าวว่า ต้องการซื้อน้ำมันสำรองต่อเมื่อราคาลดลงสู่ระดับ 67 - 72 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ การขายน้ำมันสำรองสหรัฐมากเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้ว ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันสำรองอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 40 ปี แม้ว่าขณะนี้ผลผลิตน้ำมันดิบของประเทศจะเพิ่มสูงขึ้นแล้วก็ตาม